English Deutsch Français Italiano Español Português 繁體中文 Bahasa Indonesia Tiếng Việt ภาษาไทย
All categories

12 answers

หัวหอมใหญ่ มีวิตามินซีสูง มีน้ำมันหอมระเหย น้ำคั้นจากหัว ช่วยลดโคเลสเตอรอล ลดความดันโลหิต ลดน้ำตาลในเลือดค่ะ ตำผสมกับเหล้าเล็กน้อยแล้วนำมาพอกลดการอักเสบอาการบวมได้ค่ะ

หอมหัวใหญ่ (Allium cepa) เป็นพืชในตระกูลเดียวกับกระเทียม อุดมไปด้วยธาตุแคลเซียม แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม กำมะถัน ซีลีเนียม บีตาแคโรทีน กรดโฟลิก และฟลาโวนอยด์เควอเซทิน

หอมหัวใหญ่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ ลดอาการกระตุกของกล้มเนื้อ มีฤทธิ์มากในการขับสารพิษทั้งที่เป็นโลหะหนักและพยาธิ เควอเซทินเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีมาก

โคเลสเตอรอลและความดันเลือดสูง

หอมหัวใหญ่มีผลคล้ายกระเทียมในการลดโคเลสเตอรอลและความดันเลือด มีสารไซโคลอัลลิอิน ที่สามารถละลายลิ่มเลือดได้

ผลการศึกษากลุ่มคนกินมังสวิรัติในประเทศอินเดียที่กินกระเทียม 10 กรัมต่อสัปดาห์ และกินหอมหัวใหญ่ 200 กรัมต่อสัปดาห์ มีปริมาณโคเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์เฉลี่ย 172 และ 75 มิลลิกรัม/มิลลิลิตร ตามลำดับ

ในขณะที่ค่าดังกล่าวในกลุ่มควบคุม (ไม่ได้กินกระเทียมและหอมหัวใหญ่) คือ 208 และ 109 มิลลิกรัม/มิลลิลิตร ตามลำดับ

ส่วนการศึกษาในประเทศสหรัฐอเมริกาพบว่า การกินหอมหัวใหญ่สดวันละครึ่งหัวในผู้ป่วยที่มีระดับไขมันเอชดีแอลในผู้ป่วยดังกล่าวจากร้อยละ 20 เป็น 30 มีผลลดระดับโคเลสเตอรอลในภาพรวม และเพิ่มอัตราส่วนระหว่างไขมันเอชดีแอล (ไขมันดี) ต่อไขมันแอลดีแอล (ไขมันเลว) อย่างน่าพอใจด้วย

ภูมิแพ้และหอบหืด

หอมหัวใหญ่มีความสามารถยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ไลพอกซีจีเนสและไซโคลออกซีจีเนส ซึ่งสร้างสารพรอสตาแกลนดินและทรอมบอกเซนซึ่งเป็นสารก่อการอักเสบ เมื่อให้หนูตะเภากินสารสกัดแอลกอฮอล์ของหอมหัวใหญ่ 1 มิลลิลิตร พบว่าสามารถลดอาการหืดหอบจากการหดลองสูดดมสารก่อภูมิแพ้ได้

หอมหัวใหญ่มีเควอเซทิน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของฤทธิ์เชิงเภสัชวิทยาของมัน พบว่าเควอเซทินสามารถยับยั้งการปล่อยฮิสตามีนจากมาสต์เซลล์ และยับยั้งการสร้างสารที่เกี่ยวข้องกับภูมิแพ้ เช่นลิวโคทรีนได้

เควอเซทินพบมากที่สุดในผิวชั้นต้นๆ ของหอมหัวใหญ่ และพบมากกว่าในหอมหัวใหญ่สีม่วงและหอมแดงแต่ฤทธิ์ป้องกันอาการหอบหืดและภูมิแพ้คาดว่ามาจากสารกลุ่มไอโซโอไซยาเนต

เบาหวาน

หอมหัวใหญ่แสดงฤทธิ์ลดระดับน้ำตาลในเลือด ในผลงานการศึกษาทางการแพทย์และทางคลินิกหลายชิ้นสารออกฤทธิ์ในหอมหัวใหญ่เชื่อว่าเป็นสารอัลลิลโพรพิลไดซัลไฟด์ (Allyl propy disuldhide หรือ APDS) และ มีฟลาโวนอยด์อื่นร่วมด้วย

หลักฐานจากการทดลองและสังเกตในคลินิกพบว่า APDS ลดระดับกลูโคสโดยแข่งกับอินซูลิน (ซึ่งเป็นไดซัลไฟด์เช่นกัน) ในการเข้าสู่จุดยับยั้งการทำงานโดยอินซูลิน (Insulin-inactivating sites) ในตับ ทำให้มีอินซูลินอิสระเพิ่มขึ้น

การกินหอมหัวใหญ่ 1-7 ออนซ์ (16 ออนซ์ประมาณครึ่งกิโลกรัม) มีผลลดปริมาณน้ำตาลในเลือดผลนี้พบทั้งในหอมหัวใหญ่ทั้งดิบและที่ต้มแล้ว

ในหัวหอมไทยมี

กรดลิโนลีนิค(linolenic acid) ซึ่งเป็นสารที่ช่วยลดปริมาณไขมันในเลือด และยังช่วยขยายเส้นเลือดให้กว้างขึ้น เป็นผลให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกายได้สะดวกยิ่งขึ้น

พาราฮิโมไลติคัส (Vibrio parahaemolyticus) ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของโรคอหิวาต์เทียม
นอกจากนี้ยังทำลาย ชิเจลลา ไดเซนเทอริอี (Shigella dysenteriae) ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคบิดและ
สแตฟไฟโลคอคคัส ออเรียส (Staphylococcus aureus) ที่เป็นสาเหตุของอาหารเป็นพิษได้ นอกจากนี้ยังพบว่าในหัวหอมมีน้ำมันหอมระเหยอยู่ด้วยเช่นเดียวกับพืชที่เป็นเครื่องเทศอื่นๆ และน้ำมันหอมระเหยของหัวหอมจะยับยั้งการเจริญของซาลโมเนลลา ไทพฟมูลเรียม (Salmonella typhimurium) ซึ่งทำให้เกิดโรคอุจจาระร่วงและอาหารเป็นพิษ รวมทั้งจุลินทรีย์ที่ทำให้อาหารเกิดการเน่าเสียได้อีกหลายชนิด
จะเห็นได้ว่าหัวหอมเป็นพืชที่ให้ประโยชน์หลายด้าน โดยเฉพาะสามารถยับยั้งการเจริญของ
จุลินทรีย์ต่างๆ ทั้งที่ทำให้เกิดโรคและเป็นสาเหตุของอาหารเป็นพิษได้ดี ประกอบกับสารที่พบใน
หัวหอมไม่มีโทษต่อร่างกาย ทุกครัวเรือนจึงสามารถนำหัวหอมมาใช้ได้โดยปลอดภัย จึงนับได้ว่า
หัวหอมเป็นเครื่องเทศคู่ครัวเรือนของสังคมไทยอย่างแท้จริง

2007-10-27 18:06:16 · answer #1 · answered by กระจกใส 7 · 1 1

Onions fall into the same family as Garlic and are excellent health supplements also. You also can eat more onion than garlic since the strength is so strong with garlic.

2007-10-27 18:09:13 · answer #2 · answered by Brick 5 · 0 0

Onion is effective against many bacteria including Bacillus subtilis, Salmonella, and E. coli.

Onion is not as potent as garlic since the sulfur compounds in onion are only about one-quarter the level found in garlic.

2007-10-27 17:35:12 · answer #3 · answered by Anonymous · 1 0

Onions are great! You will always find onions and garlic both in my kitchen. If you aren't eating them with me so your breath smells too, chances are our relationship doesn't stand a chance anyway.

2007-10-27 17:58:49 · answer #4 · answered by barbara 7 · 0 0

I love onions, but I don't like the way they make my breath stink!

I like this page for the health benefits of onions:
http://www.vegetarian-nutrition.info/updates/onions.php

2007-10-27 17:40:48 · answer #5 · answered by Sandstress77 2 · 1 0

Onions are excellent, and since I live alone I can cook and consume them without fear.

2007-10-27 22:14:28 · answer #6 · answered by Eric S 6 · 0 0

I hate onions! They smell, not that garlic doesn't but onion is worse, at least for me...However, they are healthy...

2007-10-27 17:34:47 · answer #7 · answered by ^Blue Rose^ 3 · 0 1

Onions can be a bad source for you breath, although they can be a good source for you teeth, it gives health to the teeth.

2007-10-27 17:34:39 · answer #8 · answered by H V 2 · 0 1

Evidence suggests that onions may be effective against the common cold, heart disease, diabetes, osteoporosis, and other diseases. They contain anti-inflammatory, anticholesterol, anticancer, and antioxidant components such as quercetin.

2007-10-27 17:35:14 · answer #9 · answered by Crystal H 2 · 1 0

love onions always ask for extra

2007-10-27 17:56:43 · answer #10 · answered by a person of interest 5 · 0 0

fedest.com, questions and answers