English Deutsch Français Italiano Español Português 繁體中文 Bahasa Indonesia Tiếng Việt ภาษาไทย
หมวดหมู่ทั้งหมด

8 คำตอบ

สวัสดีค่ะ คุณแพรว เสียงใส
ใช่ค่ะ อาการตัวบวม เกิดจากการที่ฮอร์โมนบางตัวส่งผลให้ร่างกายสะสมน้ำไว้ในชั้นเนื้อเยื่อร่างกายมากขึ้น ผลก็คือจะทำให้น้าหนักตัวเพิ่ม อึดอัด ตัวบวม เต้านมคัดตึง โดยรวมคืออาการหงุดหงิดและไม่สบายกับร่างกายค่ะ เราเรียกอาการแบบนี้ทางการแพทย์ว่า
''กลุ่มอาการก่อนมีประจำเดือน'' ค่ะ
( PMS: Premenstrual Syndrome )

หนึ่งในกลุ่มอาการนี้ได้แก่ ตัวบวม หน้าท้องขยาย ร่างกายจะสะสมน้ำเพิ่มขึ้น ทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น ผู้หญิงบางคนอาจมีน้ำหนักเพิ่มได้ถึง 1-2 กิโลกรัมในช่วงก่อนมีประจำเดือน หลังจากนั้นน้ำหนักจะลดลงได้เองค่ะ

อาการไม่สบายขณะมีรอบเดือนพบได้หลากหลายกว่า 150 ชนิด แต่เราสามารถแบ่งเป็น 5 กลุ่มใหญ่ๆได้แก่
-เจ้าน้ำตา
-ท้องอืด
-ขี้โมโห
-ไม่มีแรง
-หิวบ่อย

อาการหิวบ่อย ที่ถามมา สาเหตุของอาการหิวบ่อยเกิดจากการที่สาร''เซโรโทนิน''ในร่างกาย ลดลงอย่างรวดเร็วในช่วงก่อนมีรอบเดือนค่ะ ทำให้ร่างกายของเราต้องการคาร์โบไฮเดรตมากกว่าปกติ เพื่อให้ร่างกายใช้ของหวานไปเพิ่มสารตัวนี้ นับว่าเป็นกลไกทางธรรมชาติค่ะ

เพราะอะไรผู้หญิงจึงได้มีอาการก่อนมีประจำเดือน แพทย์หลายคนจะตอบว่าเป็นเพราะสมดุลของฮอร์โมนในร่างกายผิดปกติ โดยเชื่อกันว่ามีฮอร์โมนอยู่สองชนิดที่น่าจะเกี่ยวข้องกับอาการนี้ นั่นคือ ฮอร์โมนโพรเจสเทอโรน (Progesterone) และ โพรแลกติน (prolactin)

ก่อนมีประจำเดือน ฮอร์โมนทั้ง 2 ชนิดนี้จะมีระดับสูงขึ้น มีผลทำให้เราหงุดหงิด ขี้โมโห และมีอาการอื่นๆอีกเป็นร้อยอาการทีเดียวค่ะ

ต่อไปนี้คุณผู้ชายจะได้หายสงสัยแล้วนะคะ ว่าทำไมพวกเราถึงหงุดหงิดง่าย ตัวบวม ทานจุ ในช่วงพิเศษนี้ค่ะ

ฝากอีกนิด วิธีจัดการกับอาการ PMS ศึกษาได้ที่นี่ค่ะ
http://www.pooyingnaka.com/story/story.php?Category=health&No=1456

2007-11-06 23:48:34 · answer #1 · answered by กระจกใส 7 · 5 0

สวัสดีค่ะ คุณแพรว

เพราะอะไรถึงทานจุ และตัวบวม คงไม่ตอบแล้ว ก็แหม.คุณพี่ข้างบนเธอจัดให้เรียบร้อยแล้ว(ไวจริงๆ)

แต่มีวิธีแก้มาฝากค่ะ
-------
ลักษณะอาการ รู้สึกว่าเต้านมบวมและนุ่มกว่าเดิมเหมือนเนื้อเหลว เช่นเดียวกับหน้าท้อง น้ำหนัก ขึ้น มือเท้าบวมจน สังเกตได้ มีอาการบวมน้ำตามส่วนต่างๆของร่างกาย

วิธีบำบัด : ลดการบริโภคเกลือลง ออกกำลังให้ได้สัปดาห์ละ 3 ครั้ง ครั้งละไม่ต่ำกว่า 20 นาที เพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อและขับน้ำส่วนเกิน ออกจากร่างกาย อาหารที่มีโปรตีนและไฟเบอร์สูงจะช่วย
ให้อกกระชับและตึงขึ้น เช่นเดียวกับ วิตามินบี 6 และน้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสที่ช่วยแก้ปัญหาหน้าอกนุ่มเหลวได้ หากมีอาการท้องอืดหรืออาหารไม่ย่อย ควรงดกาแฟและแอลกอฮอล์ก่อนมีรอบเดือน
ไม่น้อยกว่า 2 สัปดาห์

การหิวบ่อย
ลักษณะอาการ : อยากอาหารหวานจัด เช่น เค้ก หรือช็อคโกแล็ต อาหารเค็ม เช่น พิซซา หรือพวก ถั่วอบเกลือ รับประทานมากกว่าปกติ มีอาการเวียนศีรษะบ่อย

วิธีบำบัด เกิดจากการที่สารเซโรโทนินลดลงอย่างรวดเร็วในช่วงก่อนมีรอบเดือน ทำให้ต้อง การคาร์โบไฮเดรตมากกว่าปกติ เพื่อให้ร่างกายใช้ของหวานไปเพิ่มสารนี้ ควรควบคุมโภชนาการให้ถูกต้องและหากิจกรรมอื่นทำบ้าง จะได้ไม่คิดถึงเรื่องกินตลอดเวลา หรือรับประทานผลไม้แทน

2007-11-07 07:59:12 · answer #2 · answered by Hideko 6 · 4 0

สวัสดีค่ะ
เหตุผลนี้ เราเองเป็นผู้หญิงจะรู้สึกอย่างดีเลยว่า เมื่อช่วงใกล้ประจำเดือนจะมาก่อนประมาณสัก 1 อาทิตย์ จะรู้สึกว่าหน้าอกตึง ตัวใหญ่ขึ้นมาอีกนิด แล้วก็ที่สำคัญอารมณ์หงุดหงิดง่าย อยากทานแต่ของเปรี้ยวๆ ลักษณะคล้ายคนท้อง และตามผิวหน้าก็จะมีสิวขึ้นบ้าง
เพราะว่า ช่วงนี้โฮร์โมนในร่างกายกำลังสมบูรณ์ และพร้อมกันนั้นรังไข่ก็ทำงานผลิตเม็ดเลือดที่ดี แล้วก็ขับเม็ดเลือดที่เสียออกมาที่เราเรียกว่าประจำเดือน แต่เป็นแล้วแทบทรมานเลยเพราะเป็นไข้และเพลียเลยค่ะ แต่เป็นเฉพาะบางคนเท่านั้นค่ะ

2007-11-09 04:14:52 · answer #3 · answered by smilebizdollars 3 · 2 0

เมื่อใกล้มีรอบเดือน ผู้หญิง 80% ทั่วโลกมักเกิดความไม่สบายทางร่างกายและจิตใจสิ่งที่เกิด ขึ้นนี้ถือเป็นอาการป่วยชนิดหนึ่งที่เรียกว่า PMS หรือ Premenstrual Syndrome หลายคนต้องสูญเสียสัมพันธภาพกับคนรัก บางคนตัดสินใจด้านธุรกิจผิดพลาดไปในช่วงนี้ อาการไม่สบายขณะมีรอบเดือนพบได้หลากหลายกว่า 150 ชนิด แบ่งเป็น 5 กลุ่มใหญ่

1. เจ้าน้ำตา
ลักษณะอาการ : หดหู่ ร้องไห้โดยไม่มีสาเหตุ ตัดสินใจอะไร ยากขึ้น สับสนและหลงลืมบ่อยๆ นอนไม่พอ เหนื่อยง่าย รู้สึก เหมือนไม่ได้พักผ่อน
วิธีบำบัด : ดูแลโภชนาการให้ดี บริโภคอาหารไขมันต่ำให้มาก เพราะเกลือและไขมันที่สูงจะไปเพิ่มระดับเอสโตรเจน ทำให้เกิด อาการเช่นนี้หาเวลางีบเมื่อรู้สึกเหนื่อย ทำสมาธิหรือเล่นโยคะ
แร่ธาตุที่จำเป็นช่วงนี้ คือ สังกะสี จะช่วยลดอาการเศร้าหดหู่ได้

2. ขี้โมโห
ลักษณะอาการ : หมดความอดกลั้นจนระเบิดอารมณ์บ่อยเดี๋ยว ดีเดี๋ยวร้าย แปรปรวนจนตามไม่ทัน วิตกกังวล กว่าปกติที่เคยเป็น หุนหัน ทำอะไรโดยไม่ยั้งคิดบ่อยๆ รู้สึกสูญเสียโดยไม่มีสาเหตุ
วิธีบำบัด : บริโภคอาหารมื้อเล็กๆ แต่บ่อยครั้งขึ้นอาการนี้เกิดขึ้น เพราะขาดน้ำตาลในเลือดทำให้หงุดหงิดง่าย การออกกำลังเช่นเดิน หรือปั่นจักรยาน จะช่วยให้ร่างกายปล่อยเอ็นเดอร์ฟินทำให้อารมณ์ ดีขึ้น ควรบริโภควิตามินบี 6 และอย่าลืมบอกกล่าวคนใกล้ตัวด้วย เขาจะได้พร้อมให้อภัย

3. ท้องอืด
ลักษณะอาการ : รู้สึกว่าเต้านมบวมและนุ่มกว่าเดิมเหมือนเนื้อเหลว เช่นเดียวกับหน้าท้อง น้ำหนักขึ้น มือเท้าบวมจน สังเกตได้ มีอาการบวมน้ำตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย
วิธีบำบัด : ลดการบริโภคเกลือลง ออกกำลังให้ได้สัปดาห์ละ 3 ครั้ง ครั้งละไม่ต่ำกว่า 20 นาทีเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อและขับน้ำส่วนเกิน ออกจากร่างกาย อาหารที่มีโปรตีนและไฟเบอร์สูงจะช่วยให้อกกระชับ และตึงขึ้น เช่นเดียวกับ วิตามินบี 6 และน้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสที่ช่วยแก้ปัญหาหน้าอกนุ่มเหลวได้ หากมีอาการท้องอืดหรืออาหารไม่ย่อยควรงดกาแฟและแอลกอฮอล์ก่อนมีรอบเดือนไม่น้อยกว่า 2 สัปดาห์

4. ไม่มีแรง
ลักษณะอาการ : มีปัญหาเกี่ยวกับผิวช่วงที่มีรอบเดือน เช่น สิว ฝ้า ปวดศรีษะและหลัง ไม่มีแรง ใจสั่น อารมณ์อ่อนไหวง่ายร่างกายเจ็บ ปวดบ่อยโดยไม่มีสาเหตุ ขาดความกระตือรือร้นทางเพศ
วิธีบำบัด : การที่ผิวมีปัญหา ร่างกายเจ็บปวดหรือเป็นตะคริว เกิดจาก การผันแปรของฮอร์โมนเพศ ดังนั้นควรงดอาหาร หวานจัด แอลกอฮอล์ บุหรี่ และ สารกระตุ้นทุกชนิด ควรเดินออกกำลังวันละ 30 นาที บริโภควิตามินเอเพื่อช่วยรักษา สภาพผิวหรือน้ำมันอีฟนิ่งพรีมโรส ซึ่งมีกรดแกมมาไลโนเลอิกที่ช่วยรักษาสมดุลฮอร์โมน

5. หิวบ่อย
ลักษณะอาการ : อยากอาหารหวานจัด เช่น เค้ก หรือช็อคโกแล็ต อาหารเค็ม เช่นพิซซา หรือพวกถั่วอบเกลือ รับประทาน มากกว่าปกติ มีอาการเวียนศีรษะบ่อย
วิธีบำบัด : เกิดจากการที่สารเซโรโทนินลดลงอย่างรวดเร็วในช่วงก่อน มีรอบเดือน ทำให้ต้องการคาร์โบไฮเดรตมากกว่าปกติ เพื่อให้ร่างกาย ใช้ของหวานไปเพิ่มสารนี้ ควรควบคุมโภชนาการให้ถูกต้องและหา กิจกรรมอื่นทำบ้าง จะได้ไม่คิดถึงเรื่องกินตลอดเวลา หรือรับประทานผลไม้แทน บางคนอาจมีอาการมากกว่า 1 กลุ่ม ซึ่งไม่ถือว่าผิดปกติ

2007-11-11 22:00:55 · answer #4 · answered by fala ka 2 · 1 0

เกิดจากการที่ฮอร์โมนบางตัวส่งผลให้ร่างกายสะสมน้ำไว้ใน
ชั้นเนื้อเยื่อร่างกายมากขึ้น ผล นน.เพิ่ม...ตัวบวม อึดอัด เต้านมคัดตึง โดยรวมคืออาการหงุดหงิดและไม่สบายกับร่างกายค่ะ เรียกทางการแทย์ว่า กลุ่มอาการก่อนมีประจำเดือนมา ( PMS )

2007-11-07 09:50:27 · answer #5 · answered by Anonymous · 1 0

เราว่าน่าจะเกิดเนื่องจากมีการสูญเสียอะไรบางอย่างไปเวลามีประจำเดือน และต้องหาอะไรมาบำรุงทดแทนน่ะ

2007-11-10 09:29:05 · answer #6 · answered by PIYOROST P 2 · 0 0

เพิ่มเติมค่ะ

ทำไมต้องหงุดหงิด หรือสิวขึ้นมากทุกครั้งที่มีประจำเดือน
เราเรียกอาการเหล่านี้ว่า "อาการก่อนมีประจำเดือน" ซึ่งมีมากมายหลายแบบ บางคนไม่เป็นอะไรเลย ขณะที่บางคนปวดท้อง บางคนรู้สึกระคายเคืองช่องคลอด การเกิดอาการเหล่านี้ไม่มีสาเหตุทางชีวภาพที่แน่นอนแต่ที่แน่ๆคือ ช่วงนี้ระดับฮอร์โมนจะลดลงต่ำสุด จำกัดการบริโภคเกลือ น้ำตาล คาเฟอีนและแอลกอฮอล์ กินอาหารให้ครบทุกหมวดหมู่เน้นผักและคาร์โบไฮเดรต อาการก่อนมีประจำเดือนนี้อาจเกิดต่อเนื่องในขณะมีประจำเดือนด้วย

อาการก่อนมีประจำเดือน
หดหู่ เครียด อารมณ์เสีย อารมณ์เสียง่ายกว่าปกติ วิตามินบีและแคลเซียมช่วยลดอาการเหล่านี้ได้
บวม โซเดียมในเกลือทำให้เกิดน้ำขัง โดยเฉพาะที่ท้องและหน้าอก ทำให้บวมได้
อ่อนเพลียและปวดหัว พักผ่อนและกินยาบรรเทาปวดเพื่อลดอาการดังกล่าว
เป็นสิว ใช้วิธีการรักษาสิวตามปกติ
เจ็บหน้าอก หน้าอกจะเต่งขึ้นและรู้สึกเจ็บ (คัดหน้าอก)
ปวดหัว ปวดหลัง - โพรสทาแกลนดีส (เป็นชื่อของสารชนิดหนึ่งในร่างกายซึ่งคล้ายฮอร์โมน) คือ ต้นเหตุที่ทำให้ปวดท้องขณะมีประจำเดือน (เป็นสารชนิดเดียวกับที่ทำให้ผู้หญิงเราเกิดอาการปวดท้องตอนจะคลอดลูกด้วย) สารนี้จะกระตุ้นให้กล้ามเนื้อมดลูกหดตัว เพื่อช่วยให้ร่างกายขับประจำเดือนออกมา การหดตัวนี้มีตั้งแต่เล็กน้อยจนถึงรุนแรง บางครั้งอาจปวดเลยไปถึงบริเวณหลัง เป็นสาเหตุให้ปวดหลังด้วย ความเครียดจะกระตุ้นให้เกิดการผลิตสารโพรสทาแกลนดีสได้ ดังนั้นจึงควรออกกำลังกาย ซึ่งจะทำให้ร่างกายหลั่งสารเอนโดฟินออกมา เป็นการระงับการปวดตามธรรมชาติ ทำใจให้สบาย และหายใจลึกๆ

ยังมีวิธีธรรมชาติอื่นๆที่ช่วยลดอาการก่อนมีประจำเดือน แต่ได้ผลเฉพาะบางคนเท่านั้น คือ จิบชาสมุนไพรร้อนๆ กินวิตามินซี แคลเซียม และน้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส การอาบน้ำอุ่นหรือใช้กระเป๋าน้ำร้อนวางบริเวณท้องน้อยก็ช่วยลดอาการปวดได้เช่นกัน

เวลาเกิดอาการต่างๆก่อนมีประจำเดือน ต้องรู้จักดูแลตัวเอง ลองใช้วิธีรักษาหลายๆวิธี สังเกตดูว่าวิธีไหนใช้ได้ผล ถ้าหลังมีประจำเดือนแล้วอาการต่างๆยังไม่ทุเลาลง แต่กลับเป็นหนักขึ้น ก็ควรปรึกษาแพทย์ค่ะที่มาจาก

2007-11-09 14:55:59 · answer #7 · answered by wipai j 2 · 0 0

มารับรู้ไว้ครับ แล้วทำไมผู้หญิงต้องมีประจำเดือน
น่าจามีปีละครั้งเนอะ จาได้เป็นประจำปี *0*

2007-11-07 22:14:26 · answer #8 · answered by Anonymous · 1 2