บางคนต้องสวมบทเป็นเจ้านายที่น่ารัก..แต่ความจริงไม่ใช่
บางคนต้องแสดงบทเป็นผู้หญิงเข้มแข็ง..แต่ความจริงไม่ใช่
...บางคนเกลียดการปั้นหน้าย้มแย้มกับคนที่ไม่ชอบหน้า ที่เผอิญดันเป็นลูกค้าคนสำคัญ
...บางคนเกลียดการมีมนุษย์สัมพันธ์ แต่ดันเป็นดารา
...บางคนเกลียดการบริการ แต่ดันเป็นพนง.บริการลูกค้า ลูกค้าสัมพันธ์....
2007-12-23
15:58:27
·
12 คำตอบ
·
ถามโดย
Hideko
6
ใน
สังคมศาสตร์
➔ สังคมวิทยา
..ดิฉันไม่คิดว่าดิฉันเข้าใจผิดไปนะคะ ไม่ว่าการสวมบทจะเป็นอะไรก็ตาม มันก็คือการแสดง การแสดงก็คือมายา.. มายาก็คือภาพลวงตา ...ถ้าสมมติว่ามีคนๆนึงดีมากๆ ทำความดี เค้าก็จะเรียกคนๆนั้นว่า เป็นคนดี ...แต่ในทางกลับกัน คนๆนั้นไม่ได้มีความดีเลย แต่ทำทีเป็นว่าดีเหลือแสน(ดังเช่นนักการเมืองบางท่าน)..เค้าเรียกว่า สวมบทเป็นคนดี คนฟังก็จะเข้าใจทันทีว่า ตื้นลึกหนาบางของคนๆนี้เป็นยังไง
..คือจริงๆ คนเราต้องยอมรับนะคะ ว่าการตีสองหน้ามีกันทุกคน และต้องเจอกันทุกคน จะมามัวมองโลกในแง่ดี ว่าผมหรือชั้น ไม่เจอหรอก สังคมผม(หรือชั้น)ดีพอ ...มันเป็นไปไม่ได้หรอกค่ะ นอกจากคนที่อยู่ในป่า เจอแต่ลิงแต่ค่าง ..จริงใจดี
ไม่ซีเรียสนะคะ แค่อยากรู้ว่า มีวิธีดูกันยังไง ขอเข้าใจง่ายๆค่ะ เป็นคนความรู้น้อย สมองก็พลอยน้อยตาม แหะๆๆ
2007-12-23
20:33:46 ·
update #1
การเสแสร้งเป็นการปรุงแต่งคำพูดหรือการกระทำให้อีกฝ่ายหลงผิด หลงเชื่อ อาจจะเพราะคะนองปาก ต้องการหลอกเล่น ต้องการประโยชน์จากอีกฝ่ายหนึ่งในทางที่เอื้อประโยชน์กับตัวเอง
จะดูอย่างไรว่าเสแสร้ง
เสแสร้ง ดูแล้วจะเป็นการแสดงที่ไม่จริงใจ ทางกายภาพอาจจะต้องใช้การสังเกตุให้ลึกหน่อย หรือใช้เวลาพิสูจน์ว่าเสแสร้งจริงไหม ทางจิตใจก็สามารถทดสอบได้ แล้วแต่กรณีว่าเขาเสแสร้งกับเราหรือไม่ ถ้าเขาเสแสร้งมา เราก็ต้องเสแสร้งตอบกลับไปบ้าง บางทีก็จะทำให้รู้ว่า เขากำลังทำอะไรอยู่ เช่น บอกว่ารักเรา เราก็แกล้งบอกไปว่าฉันก็รู้สึกดีๆกับคุณเหมือนกัน ถ้าเขาพูดไม่จริง เดี๋ยวก็ต้องร้อนตัว รีบออกมาบอกว่า ยังไม่พร้อม แบบนี้เป็นต้นค่ะ
คนที่เสแสร้ง จะพูดหยอกพูดเล่น พูดกลับไปกลับมา เอาแน่ไม่ได้ เหมือนไม่ต้องการผูกมัดคำพูดหรือการกระทำของตัวเองค่ะ ถ้าเขาหวังดีต่อเราจริง ก็ต้องแสดงออกอย่างเปิดเผยกับเรา ไม่หมกเม็ด ไม่อ้อมค้อม หรือเปิดเผยตามเวลาที่เหมาะสม
ถ้าเป็นเรื่องงานก็ต้องไม่หวังประโยชน์จากเรานอกเหนือหน้าที่ที่มีต่อกัน
ถ้าเป็นเพื่อน เพื่อนร่วมงาน ถ้าเสแสร้งก็ดูออกได้ทางแววตา ท่าทาง แต่ถ้าดูไม่ออก ก็ต้องดูที่ผลของการกระทำที่เขาทำกับเรา ว่ามันส่งผลเสียกับเราไหม หวังดีต่อเราหรือเปล่า ถ้าทำให้เราเดือดร้อนก็ต้องเป็นคนที่ไม่หวังดีต่อเราแล้วค่ะ
ถ้าเป็นเรื่องความรัก ก็ต้องใช้เวลาพิสูจน์ความสม่ำเสมอของเขาค่ะ คำพูดและการกระทำต้องเป็นไปทางเดียวกัน รักษาคำพูดและการกระทำกับเรา ไม่ทำให้เราช้ำใจทั้งต่อหน้าและลับหลังค่ะ
2007-12-23 16:30:45
·
answer #1
·
answered by กระจกใส 7
·
3⤊
0⤋
ต้องดูความสัมพันธ์ระหว่างการพูดหรือแสดงออก กับ การกระทำ ถ้าจะพิจารณาเฉพาะการแสดงออกอย่างเดียว จะเป็นการจับผิด คงจะไม่ดีนัก เพียงแต่ว่า เราระวังตัวก็แล้วกัน
2007-12-24 06:04:06
·
answer #2
·
answered by Jul 3
·
3⤊
0⤋
สวัสดีค่ะ
อย่าไปคิดมากเลย จริงของคุณที่ทุกคนเป็นเหมือนกันหมดแล้วแต่ว่าใครจะเป็นเพราะอะไร แม้แต่ตัวเราเองทุกวันนี้ก็เป็นอย่างตัวเราไม่ค่อยชอบพูดกับคนแปลกหน้าหรือไม่รู้จัก และอัธยาศัยก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ยิ้มยาก แต่ทุกวันนี้ทำงานขายทุกอย่างที่ไม่ชอบ ไม่เป็นตัวเองต้องทำหมด แต่ลึกๆ แล้วเราก็มีความฝัน ที่จะได้ทำในสิ่งที่ชอบในอนาคต การที่เรายังต้องเป็นอย่างนี้ไม่ใช่เสแสร้ง มีคนบอกว่าบางครั้งเราก็ต้องทำในสิ่งที่ไม่อยากทำที่ทำเพราะมันทำให้เรามีรายได้ที่ดีกว่า หรือบางกรณีเราอาจต้องพูดปลดเพื่อทำให้คนที่เรารักสบายใจ มีเหตุผลมากมายที่บางครั้งเราต้องทำในสิ่งที่ตรงกันข้ามบ้าง
2007-12-24 05:16:49
·
answer #3
·
answered by FUFU 2
·
3⤊
0⤋
ดูตาเค้าก็รู้ค่ะ ดิฉันเป็นคนชอบมองตาคนที่สนทนากับเรา (แต่ไม่ชอบให้ใครมาจ้องตาเรานะ .... อาย !!!)เค้าว่าดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ ใครคิดอย่างไรมองตาก็รู้
2007-12-24 02:11:52
·
answer #4
·
answered by Praweena N 2
·
3⤊
0⤋
"โลกคือละคร อย่าอาวรณ์เลย สุขทุกข์อย่างเคย รักแล้วเป็นเช่นกัน
โลกคือละคร ทุกคนต้องแสดง ทุกคนทนไป อย่าอาลัย ยิ้มกันสู้ไป จะได้สบาย"
ทุกคนก็มีบทบาทเหมือนบทละครในชีวิตจริงแต่ถ้าเป็นตัวร้ายก็จะมีบทบาทมากกว่ากลายเป็น'เสแสร้ง"แกล้งทำ
ในหนังสุดท้ายแล้วตัวนางร้ายก็จะแพ้กรรมภัยที่ทำไว้เช่นเดียวกับในชีวิตจริง(ผมเชื่อเช่นนั้นแต่จะมีใครเห็นหรือไม่ไม่แน่แต่ที่แน่ก็คือตัวเขาเองรับกรรมตัวเองนั้นเอง)
สำคัญกว่าคือเราไม่ควรไปสร้างกรรมต่อกับเขา หรือแสดงบทบาทนางร้ายเสียเองจะเป็นการสร้างกรรมผูกพันกันต่อไปเรื่อยๆ
"เขามีเลวบ้าง ชั่งหัวเขา จงเลือกเอาที่ดีเขามีอยู่ เป็นประโยชน์โลกบ้างยังหน้าดู ส่วนที่ชั่วอย่าไปรู้ของเขาเลย"
"สุขกันเถิดเรา" merry chirstmas and happy new year 2008ครับ
2007-12-24 01:32:01
·
answer #5
·
answered by peterpan 3
·
3⤊
0⤋
ไม่ซีเรียสนะคะ แค่อยากรู้ว่า มีวิธีดูกันยังไง ขอเข้าใจง่ายๆค่ะ เป็นคนความรู้น้อย สมองก็พลอยน้อยตาม แหะๆๆ 55555 ถล่มตัวจังเลย แสดงเป็นคนโง่นี้ เพิ่มความน่ารักขึ้นเป็นกองเลย
อย่างแรกเลย เราต้องรู้เขาก่อน ว่าเป็นคนแบบไหน เป็นคนยังไง มีพฤติกรรมแบบไหน ที่ทำอยู่ทุกวัน แล้วถ้าเขาจะต้องทำอะไรที่มันผิดไปจากเดิม ผิดไปจากนิสัยเขา นั้นแหล่ะ ใช่เลย กำลังแสดงละคร/เสแสร้ง อยู่
แต่ถ้าคุณไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเขาเลย คงยากมากครับ ที่จะจับผิดได้ ต้องพึ่งนักจิตรวิทยา แล้วล่ะ อาจดูจากสีหน้า ดวงตา อะไรประมาณนี้แหล่ะ ครับ
2007-12-24 09:51:01
·
answer #6
·
answered by Joey07 5
·
2⤊
0⤋
ทุกอย่างคือละครครับ..โลกสร้างให้คนเราเกิดมามีหน้าที่การงานที่แตกต่างกัน....ซึ่งไม่ได้หมายความว่า...คุณจะต้องชอบในสิ่งที่คุณเป็นอยู่เสมอไป....แต่การปรับตัวหรือแสดงออกในทางที่ดีกับคนรอบข้างหรือเพื่อนร่วมงานก็เป็นสิ่งที่ดีครับ....นิสัยอันเป็นส่วนตัวบางทีก็นำมาใช้กับคนหมู่มากในสังคมไม่ได้ครับ......จะเกิดอะไรขึ้นถ้าตัวแสดงไม่ยอมแสดงตามบทที่ตนได้รับ...ถ้าคิดว่านั่นคือการเสแสร้ง...ก็อาจใช่ครับ...แต่บางทีต้องเสแสร้งออกไปเพื่อให้เป็นไปตามบทบาทของตน.....เพื่อให้สังคมน่าอยู่ขึ้น....คงไม่ดีแน่ถ้าเราไม่ถูกตาใครแล้วทำหน้ายักษ์ใหญ่โดยแสดงให้เห็นว่าฉันคิดแบบนี้....เมื่อเราเลือกที่จะเป็นในสิ่งที่เราชอบไม่ได้....ก็คงต้อง..ยอมรับกับบทบาทหน้าที่ ที่โลกนี้มอบให้กับเรา...พยายามปรับตัวทำใจห้รักในอาชีพของตน...ถ้าเกิดความรักในอาชีพของตนแล้วก็คงไม่ต้องเสแสร้งแกล้งทำแล้วครับ...การกระทำทุกอย่างมันจะเกิดจากความจริงใจและอยากจะทำครับ....คงไม่อยากรู้หรอกครับว่าใครจะเสแสร้งอะไรอย่างไร.....ขอเพียงสิ่งที่เขาทำออกมามันทำให้....เรารู้สึกดี....และเข้าใจไว้ว่า ..สักวันหนึ่งเขาอาจจะเปลี่ยนบทบาท....ไปเป็นอย่างอื่นที่แตกต่างจากวันนี้ก็ได้......ซึ่งก็หมายความว่า...ละครเรื่องใหม่กำลังเริ่มต้นขึ้นอีกแล้ว.....และสักวันมันก็อาจจะต้องจบไป.....
2007-12-24 00:58:38
·
answer #7
·
answered by Dr D อยากให้เรารักกัน 2
·
2⤊
0⤋
ตรงนี้และค่ะ ที่ทำให้คนเหนือกว่าสิ่งมีชีวิตอื่น ก็การเสแสร้ง
ไม่เขาก็เรา ทั้งนี้ก็เพื่อปกปิดความรู้สึกที่แท้จริง เพื่อผลประโยชน์ตามที่ต้องการ
การจะดูออกนั้น ส่วนใหญ่ต้องเผชิญหน้ากันโดยตรง มันต้องอาศัยการสังเกตุถึง แววตา (ท่าทาง น้ำเสียง คำพูด มันตกแต่งกันได้) คำพูดอ่อนหวาน แต่แววตาแข็งกระด้าง ความรู้สึกที่แท้จริงอยู่ที่ดวงตานั่นแหละ
อย่างที่ได้ยินกันบ่อยๆ ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ ไงล่ะ
2007-12-25 02:12:11
·
answer #8
·
answered by Iอ้ตัวดี กะ แมวตัวร้าย 3
·
1⤊
0⤋
หลวงพ่อแพร เยื่อไม้ได้กล่าวไว้ว่า
โลกเรานี้เหมือนโรงละคร
ปวงนิกรเราท่านเกิดมา
ต่างร่ายรำตามทีท่า
ตามลีลาของตัวละคร
บางทีก็เศร้าบางคราวก็สุข
บางทีก็ทุกข์หัวอกสะท้อน
มีรักมีร้างมีจากมีจร
พอจบละครชีวิตก็ลา
เราพยายามทำหน้าที่ของเราให้ถูกต้องความเศร้าหมองต่างๆ ก็จะหมดไป ถึงใครจะทำอะไรก็ตามครับเราทำดีแล้วผลดีก็ย่อมเกิดขึ้นแก่เรา อย่างน้อยเรานั่นแหละเป็คนรู้ก่อนใครครับ คุณย่าฮิฯ
ฝากคติธรรมไว้อีกสักนิดอย่าพึ่งเบื่อนะ
หมดสิ้นแล้วลาภ ยศ สรรเสริญ สุข
นินทา ทุกข์ เสื่อมลาภ-ยศ หมดความหมาย
เมื่อร่างหนึ่งนอนสงบพบความตาย
ทิ้งดีชั่วไว้ให้ได้คำนึง
2007-12-24 10:03:15
·
answer #9
·
answered by John 4
·
1⤊
0⤋
วิธีดูนั้นคุณต้องถอยออกมามองห่างๆแล้วกริยาที่แสดงออกให้เห็นเมื่อเขาอยู่คนเดียว
คือตัวตนที่แท้จริงหรืออาจต้องลองโยนคำถามที่อาจทำให้เขาหัวเสียดูกริยาเขาจะทำอย่างไร
ฉะนั้นการดูต้องพิจรณาจากการกระทำที่ในขณะอารมณ์ไม่ปกติหรือในขณะที่เขาอยู่
ตามลำพังตัวตนที่แท้จริงจะปรากฏออกมาต้องสังเกตุครับลองดูซินะ
2007-12-26 09:15:55
·
answer #10
·
answered by นายริด 4
·
0⤊
0⤋