คิดนอกกรอบเรื่องอะไรที่คุณภูมิใจ คุณกังวลกับคำตำหนิมากมั้ย

Question

สำหรับตัวเองอาจไม่ทำบุญเพื่อสร้างวัตถุ แต่จะเน้น การให้ประโยชน์กับสิ่งที่มีชีวิตมากกว่า

ทำเรื่องที่แตกต่างแต่สร้างสรรค์ แม้จะเป็นเรื่องเล็กๆ ก็น่ารักดีค่ะ คุณ Natta

Answer 1

มีเยอะแยะในชีวิตทั้งส่วนตัวและการงานค่ะ
ส่วนตัว) ตั้งแต่จำความได้ จะไม่อยู่ในกฏระเบียบที่พ่อแม่อบรมสั่งสอนว่า
อันนี้ไม่ดีนะอย่าทำ อันนีดีลองทำดูสิ
เพราะคำว่า"ดี" หรือ"ไม่่ดี" ไม่ได้ตัดสินความเป็นตัวเรา
แต่กรอบของจารีตประเพณีหรือสังคมครอบครัวต่างหากที่
คอยกำหนดกรอบและกฏเกณฑ์ให้เราดำเนินชีวิตแล้วให้
คะแนนกับเรา
อย่างการเรียนที่คิดนอกกรอบแล้วสำเร็จมาแล้วก็ตอนประถมศึกษา
ปีที่หก ..รู้ว่าจะมีการคัดเลือกตัวแทนนักเรียนไปสอบวัดระดับคณิตศาสตร์
สิบสี่จังหวัดภาคใต้..ถ้ามัวแต่รอเป็นคนที่คุณครูไม่เลือก..ทนไม่ได้ค่ะ
เลยใช้วิธีคิดนอกกรอบคือ ไปขออาจารย์เองซะเลยค่ะ และถามวิธี
เฉลยว่าทำอย่างไรให้ได้เป็นหนึ่งในทีมสามคน
ทั้งๆที่ตอนนั้นเกรดเฉลี่ยก็ห่วยแตก สมองก็ไม่ค่อยจะเก่งด้านคณิตศาสตร์เอาซะเลย
คุณครูก็แนะว่าให้ขยัน..เราก็เลยทำการบ้านล่วงหน้าจนจบเล่มส่งตั้งแต่ไม่
มิดเทอม คุณครูสงสัยนะว่าทำไมทำได้ทั้งที่ยังไม่ได้สอน
เฉลย...ขอตังค์แม่ไปซื้อคู่มือคุณครูมาอ่านซะพร้อมซืัอเฉลยคำตอบมา
ด้วย..เป็นงัยเจ๋งมั๊ยคะ? อิๆๆๆ
ส่วนสมัยมหาวิทยาลัย เรื่องความคิดนอกกรอบในวัยนิสิตมหาลัยก็มีเยอะ
อย่างเช่นการว๊ากรุ่นน้องเป็นสิ่งที่ขัดแย้งในใจเรา มันโหลยโท่ย
แค่ละครเทอมหนึ่งๆสำหรับพวกรุ่นน้องปีหนึ่งที่จะต้องโดนกันถ้วนหน้า
พอมีกิจกรรมรับน้องเราก็สนุกสนานในการร่วมแสดงบทบาทที่จะ
โดนพี่ๆกลั่นแกล้ง ให้คลานแบบหมายองๆฉี่ ก็ทำตาม
ให้คลุกขี้โคลนใส่ปลาไหลมาตอดขาตอดตามลำตัวอิชั้นก็ลุย
ให้นั่งบนก้อนน้ำแข็งแล้วดมพริกไทยจนจามอิชั้นก็ทำนะคะ
แต่รุ่นอิชั้นรับน้องไม่รุนแรงค่ะ ออกจะนอกกรอบโดยการชวนกันติวหนังสือเรียนเพื่อให้สอบผ่าน
ความที่กิจกรรมซ้อมเชียร์มันเยอะซะเหลือเกิน
แล้วความรักก็เป็นอะไรที่นอกกรอบประเพณีมากๆค่ะ
ฝรั่งเขาบอกว่า ความรักกะเซ็กซ์เป็นเรื่องที่แยกกันไม่ออกและต้อง
ทดรองก่อนเหมือนคุณซื้อกางเกงยีนส์ก็ต้องลองใส่ดูน่ะค่ะ
นั่นล่ะ คิดนอกกรอบของอิชั้นล่ะค่ะ ที่สำคัญถ้าไม่รักแต่หนักไปทางอยากมีแต่เพศสัมพันธ์
อิชั้นก็เตะเขาโด่งออกจากห้องพักที่มาใช้ชีวิตร่วมกันไปเลยค่ะ
จะแคร์ทำไมคะกับเวอร์จิ้นไม่เวอร์จิ้น หมดสมัยที่จะประคองเวอร์จิ้น
ไว้รอหนุ่มที่หัวโบราณหาสาวบริสุทธิ์ไว้แต่งงาน
เพราะสมัยนี้ชายหนุ่มเองก็น้อยรายมีปัญญาหาเงินมาสู่ขอสาวแต่งงาน
รายได้กะนิสัยการใช้จ่ายแค่เดือนชนเืดือนแถมยังพยายามหาสาว
ที่มีรายได้มากกว่ามีฐานะดีกว่าเลี้ยงดูด้วยซ้ำ

และดิชั้นคิดว่าการแคร์คำตำหนิทางสังคมรอบข้างจะทำลายความสุขใน
ชีวิตของเราๆนะคะ เอาแค่ว่าเราเป็นคนดีที่ไม่ไปแย่งแฟนใครโดยเจตนา
ถ้ารู้ว่าเขามีเมียมีลูกแล้วก็อย่าไปวุ่นวายมีอะไรลึกซึ้งด้วยเด็ดขาด
อย่าเห็นแก่เงินไม่กี่หมื่นบาทต่อครั้งที่เขาฟาดหัวเราเพียงเพื่อให้เรา
เป็นของเล่นถาวรที่เขาจะมาหาเมื่อไหร่ก็ห้ามต่อว่า และห้ามเราไป
มีใครคนอื่นด้วยนะคะ สู้ทำงานหาเลี้ยงตัวเองสบายอิสระกว่ากันเยอะค่ะ

ส่วนการทำบุญทำทาน อิชั้นประหยัดสุดๆในช่วงนี้ ก็คือนั่งสวดมนต์เจริญพระพุทธุคุณ สวดบทพระรัตนตรัย อิติปิโส และ พาหุง มหากา เสร็จก็แผ่เมตตา นั่งสมาธิวันละสิบห้านาทีเป็นอย่างน้อย
แล้วก็ได้บุญได้สติได้สมาธิด้วยค่ะ เป็นการชำระจิตใจแบบประหยัด

ถ้ามีรายได้เหลือก็จะไปถวายสังฆทาน ไปจัดโครงการบริจาคเสื้อกันหนาว หรือจัดกิจกรรมภาษาอังกฤษ
ให้กับเด็กนักเรียนระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษา ตามโรงเรียนในต่างจังหวัดที่ดิฉันไม่เคยไป
ถ้าใครสนใจอยากร่วมทำบุญบริจาคหนังสือให้ห้องสมุด หรือ
อุปกรณ์การเรียนการสอน เครื่องเขียน อุปกรณ์กีฬา ก็บอกกันมาได้นะคะ
ปัทมาวดี ศิริภัทรากูร(แพท)
Pattamawadee Siriphatthrakun(Pat)
9/123 Moo 2 Romphruek 3, Sangchanneramitr Road,
Tambol Nernphra, A.Muang, Rayong 21000Thailand
email:[e-mail]
โครงการดิฉันมีตลอดปีค่ะ ไม่ได้จำกัดช่วงเวลา

Answer 2

ผมไม่ค่อยจะมีกรอบอยู่แล้วล่ะ ...

ที่ภูมิใจที่คิดนอกกรอบ ก็ขออ้างอิงกรอบเพื่อนๆ บางคนละกันนะ
กรอบของเพื่อนๆ ช่วงนี้คือ (วัยรุ่นปลายๆแล้ว)
~ เที่ยวกลางคืนให้ซะใจ
~ กินเหล้าแบบเมาไม่สนใจใครเลย
~ นอกใจแฟนไปหาหมดนวด บ่อยครั้งก็ไม่เห็นจะเป็นไรนี่
~ โกหกบ้างก็ไม่เป็นไร บางทีไม่โกหกแต่พูดไม่หมด (แทบไม่บอกเลย)
~ ทำงานบ้างอู้บ้างก็ช่างปะไรเล่า (ประมาณว่าทำงาน25% อู้75%)

นอกกรอบของผมก็คือ
~ แทบจะไม่เที่ยวเลย (นั่งจิบกาแฟกับเพื่อนซี้ คุยโน่นนี่ตามสมควรก็มีบ้าง)
~ ไม่กินเหล้าเลยครับ (แตะลิ้นสักนิดก็ไม่มี)
~ ไม่นอกใจแฟนเลย (เพราะไม่มีแฟน ถึงมีก็ไม่นอกใจ ... พัดลมที่บ้านไม่นับนะ)
~ ไม่โกหกเลย พยายามกำหนดว่าจะไม่โกหกเลยให้จงใด้ (ถ้าไม่มีสติก็จะลืมตัว ... ถ้าโดนสถานะการณ์บีบมากๆ อย่างมากก็นิ่งซะไม่พูดดีกว่า ... )
~ ทำงานเต็มกำลังความสามารถ (ก็มีอู้บ้างนะแต่ก็น้อยครับ เวลาที่งานไม่มีไม่นับว่าอู้นะ ...)

นี่ล่ะคิดนอกกรอบของผมครับ ... ใครจะนำไปใช้ไม่ว่ากันล่ะนะ ...

ส่วนคำตำหนิก็กังวลบ้าง แต่จะนึกขอบคุณคนที่ตำหนิซะมากกว่า
เพราะเป็นเสมือนผู้ชี้ทางไปหาขุมทรัพย์ให้ เราจะใด้ปรับปรุงอะไร
ให้ดีขึ้น แล้วในที่สุดคำตำหนิเก่าๆก็จะไม่มีอีกล่ะ โดยรวมเราก็น่า
จะพัฒนาไปไกลมากกว่าเก่า เยอะด้วยล่ะครับ ...

^_^

Answer 3

เคยคิดอยู่ทุกวันว่าทำไม่ต้องมีวันหยุดราชการหากมีการจัดหมุนเวียนกันทำงาน
ระบบทุกอย่างไม่ต้องหยุดทำให้เกิดการจัดการงานส่วนตัวต่อราชการไม่ต้องลางาน
ทำให้งานทุกส่วนสามารถหมุนเวียนได้ทุกวันที่ท่องเทียวก็หมุนเวียนกันใช้ประโยชน์
ได้มากที่สุดไม่แออัดในเทศกาลผมว่าประเทศเราจะมีประสิทธิภาพงานมากขึ้นครับ
แต่ต้องกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงเช่นสมัยก่อนธนาคารหยุดพักเที่ยงคนรอเดี๋ยวนี้หมุนเวียน
กันหยุดงานก็ราบรื่นคนไม่ต้องลางานมาฝากหรือทำธุรกิจการเงินผมว่าหากราชการ
เปลี่ยนแนวคิดบ้างก็จะดีนะครับแต่หากพูดมากไปอาจโดนเหยียบก็ได้นะ

Answer 4

คิดในกรอบเป็นยังไง.....?
ไม่ค่อยกังวัลกับคำตำหนิ เพราะเราคิดนอกกรอบจนเป็นธรรมชาติเป็นคาแรคเตอร์เฉพาะของตัวเราเองไปเลย ไม่ชอบเป็นมนุษย์โหลๆ เหมือนกันไปหมด เป็นคนคิดนอกกรอบติดตัวมาแต่เกิดมั้งคะ ข้อดีคือได้เป็นผู้นำในการทำกิจกรรมต่างๆ มาตั้งแต่เป็นนักเรียน เพราะกล้าคิดกล้าทำกล้าแตกต่าง จนป่านนี้ถ้าจับให้มานั่งทำงาน 8 โมงเช้าถึง 5 โมงเย็นเป็นรูทีน คงอกแตกตาย
กังวลนิดหน่อยตรงที่สงสารแม่เหลือเกินบางครั้ง เพราะท่านต้องทนทำใจ ที่ลูกสาวทำอะไรไม่เหมือนสังคมชาว(รอบ)บ้าน

Answer 5

คงเป็นเรื่องที่ ไม่ให้ทานกับคนที่ขอทานข้างถนน เพราะคิดว่าช่วยส่งเสริมเขาในทางที่ผิด ทำให้เขาไม่ยอมประกอบสัมมาอาชีพ
(เคยได้ยิน เขาบ่นว่า วันนี้ขาดทุน ได้เงินแค่ 2 พันเอง เฮ้อ... ขนาดขาดทุนยังได้ตั้ง 2 พัน ถ้าไม่ขาดจะเท่าไหร่กัน)
แต่จะไปทำบุญที่วัด หรือบริจาคตามกล่องรับบริจาค เช่นกล่องรับบริจาคเพื่ออาหารกลางวันเด็ก ตามธนาคารต่างๆ ที่มีไว้ ค่ะ

Answer 6

การบริหารแนวใหม่ เค้าดูที่การคิดนอกกรอบ (Innovation)
มองง่ายๆ เช่น ทุกหน่วยงานให้การต้อนรับลูกค้าเหมือนกัน แต่มีหน่วยงานๆหนึ่ง ให้บริการที่แตกต่างไป ที่เร็วกว่า สะดวกกว่า ลดขั้นตอน และประทับใจไปพร้อมๆกันคิดดูสิว่าผู้ใช้บริการจะไปใช้บริการที่ไหน ... "การบริการที่ดีเกินเป้าหมาย" เป็นการบริการที่ทุกคนปรารถนา อย่างนี้เป็นต้น

ส่วนตัวคิดนอกกรอบมากไปหน่อย คนอื่นมักตามไม่ค่อยทัน เลยไม่ค่อยอยู่ในสายตา คริคริ!! แต่ก็จะทำต่อไป เพราะทำไปแล้ว ได้ประโยชน์ไม่วันนี้ ก็ในอนาคตอย่างแน่นอน ^^

"Success is a Journey, not a Destination"

Answer 7

นึกไม่ออก เอาที่นึกออกตอนนี้ ก็เรื่องเพิ่มชื่อของตัวเอง ในโปรไฟล์
เป็น'' Natta ไปเลือกตั้งกันเถอะ''
คิดเล่นๆ จะได้ช่วยรณรงค์ให้คนไปเลือกตั้งค่ะ ก็กลัวว่าคนอื่นเขาจะหมั่นไส้หรือเปล่าน้า ปรากฎว่าวันต่อมา มีคนเพิ่มชื่อ คล้ายๆของเรา เช่น
ก็ไปเลือกตั้ง ไปเลือกตั้งด้วยคน ไปเลือกตั้งมาแล้ว เลยทำให้ดีใจเล็กๆค่ะ ที่มีคนช่วยรณรงค์ด้วยค่ะ แบบนี้พอจะเรียกว่าคิดนอกกรอบได้ไหมค่ะ

Answer 8

กรอบเขามีไว้ให้ละเมิด ผมคิดนอกกรอบทุกเรื่อง แต่ตอนนี้ที่อยูในหัวก็คือถ้าเจอคนที่ใช่เลยก็จะพากันหนี กลัวขันหมากนะครับ