English Deutsch Français Italiano Español Português 繁體中文 Bahasa Indonesia Tiếng Việt ภาษาไทย
หมวดหมู่ทั้งหมด

เมื่อเจ้านายเลือกเราเข้าร่วมทีมทำงานสำคัญ ก็จะมีคนที่ไม่ได้ดังหวังเกิดอาการ แสดงตัวเป็นอันธพาลพูดจาให้ร้ายเราและเจ้านายไปทั่ว แกล้งเสียดสีให้ฟังในห้องน้ำบ้าง หาว่าเจ้านายลำเอียง แถมมีอะไรกับเลขาเราบ้าง หาว่าเรามีอะไรกับน้องเลขาเจ้านายบ้าง ไม่มีความจริงแต่ก็ทำให้เรา เจ้านายและทั้งองค์กรเสียหายไปหลายขุม วิธีแก้ปัญหาหรือครับมีทางเลือก๑)เข้าไปหาเจ้านายยื่นในติสให้ไล่มันออกไม่จ่ายค่าชดเชยเรียกว่าตัดเชือก(แขวนคอ)หรือดู ออ ได๒)สมานฉันท์ไปชวนมันเข้ามาร่วมทีม แบ่งปันผลประโยชน์ให้พอสมควร แล้วแกล้งยอมันทำดีกับมันหลอกให้มันทำงานให้เรา๓)ปล่อยให้เวลาแก้ไข หวังว่ากรรมคงตามทันและมาล้างมันไปเอง
ผมลองแล้ววิธีแรก เจ้านายไล่ส่งให้ไปตายเสียเองก็แล้วกัน วิธีที่สองทำให้มันเงียบไปเลยสนิทใจงานเราเดินสำเร็จแต่ไม่รู้ว่ามันจริงใจหรือไม่ส่วนวิธีสุดท้ายองค์กรทรุด ทะเลาะไม่เลิก โบนัสไม่มี รอขายหุ้นทิ้งลูกเดียว คุณละครับมีวิธีจัดการอย่างไร

2007-12-12 11:56:01 · 5 คำตอบ · ถามโดย Anonymous ใน การเมืองและรัฐบาล การเมือง

5 คำตอบ

ข้อ 1 กับ ข้อ 2 คงไม่เลือก
คงข้อ 3 แต่ไม่ได้หวังให้กรรมตามทันนะค่ะ คือต้องทำให้กรรมตามทันต่างหาก
1.) ให้เราก็อยู่แบบปกติของเรา ถ้าเขาว่าร้ายเรา *** ก็ให้เราเฉย ๆไว้ *** (ให้คิดว่า ไม่ได้เป็นจริงซะอย่าง จะกลัวไปทำไม)
เพราะ คนที่มาบอกเราอาจมี 2 รูปแบบ
ก.) บอกเพราะหวังดีจริงๆ
ข.) บอกเพราะหวังดีแต่ประสงค์ร้าย (คือถ้าเราว่าโต้ตอบก็จะเอาคำพูดเราไปบอกฝ่ายนั้น ประเภทยุให้รำ ตำให้รั่วนะค่ะ)
2.) ให้พูดคุยกับคนที่มาบอกเราว่า
*** ไม่เป็นหรอก ปล่อยให้เค้าพูดไปเถอะ เบื่อแล้วเขาคงเลิกพูด ***
*** ผม (หนู) ขอให้พี่ (เพื่อนร่วมงานของเรา) ดูที่การกระทำของผม (หนู) ดีกว่า ว่าพี่เห็นผม (หนู) เป็นแบบไหน ผม (หนู) ก็เป็นอย่างที่พี่เห็นนั้นแหละครับ ***
คือ เราให้เพื่อนร่วมงานตัดสินใจเอาเองว่าจะเชื่อคนใส่ร้าย หรือใช้สมองของตนเองตัดสินเรา
3.) ที่สำคัญ อย่าไปว่าร้ายกลับนะค่ะ (ก็เราเป็นพระเอก หรือนางเอกงัยค่ะ เขาก็กลายเป็นผู้ร้ายไป)
4.) ให้เราอ่อนถอมตน และช่วยเหลือ เพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ ทั้งรุ่นพี่รุ่นน้อง อย่างเสมอต้นเสมอปลาย

I_Tuaw_D เคยเจอมาแล้ว และทำมาแล้ว สำเร็จด้วย
ทั้งๆ ที่เรานำเขามาทำงานที่เดียวกับเราแท้ๆ ก็อย่างว่าแหละค่ะ
ถ้าเราไม่ได้เป็นอย่างที่คนคนนั้นว่าร้าย เพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ ก็จะเห็นเองแหล่ะค่ะ รวมทั้งเจ้านายด้วย โดยที่เราไม่ต้องฟ้องเลยหล่ะ คนที่ว่าร้าย เขาก็แพ้ภัยตนเอง เพื่อนรวมงานก็ แอนตี้เขาเองแหละค่ะ (ถ้าอยากส่งเขาไปให้ไกลสุดๆ ก็แค่คุยว่า ไม่รู้ใครบ้างที่โดนคนๆ นี้ใส่ร้ายเอา) เขาก็ลาออกไปเอง
( พอเขาออกไปแล้ว มีเพื่อนรวมงานมาเหล่าให้ฟังเยอะเลย ว่าเขาว่าเรายังงัยบ้าง แล้วเพื่อนคนนั้นโดยคนที่ออกไปว่าอะไรบ้าง หลายคนอยู่ สรุปว่าความจริงย่อมหนีความจริงไม่พ้นค่ะ)

แถมท้ายนะค่ะ
==========
ถ้าเจ้านายคุณ รู้เรื่องที่คนคนนั้นว่าร้ายทำให้ตัวคุณ เจ้าคุณ เลขาของเจ้านายคุณ และองค์กรเสียหาย ด้วยตัวเอง โดยที่คุณไม่ได้ไปแจ้งให้เจ้านายทราบ (เชื่อเถอะค่ะ เจ้านายคุณต้องมีโอกาสได้รู้แน่ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง อาจจะเหมือนกับเรื่องที่คนว่าร้ายมาถึงคุณนั้นแหละ)

คุณคิดว่าเจ้านายคุณจะยังอยู่เฉยอีกหรือ?

2007-12-12 18:18:38 · answer #1 · answered by Iอ้ตัวดี กะ แมวตัวร้าย 3 · 0 0

ไม่รู้สิน่ะ ส่วนตัวจะคิดว่า องค์การจะเจริญได้ต้องมาจากนายที่ดี ถ้านายดีทุกอย่างก็ลงตัว ...ไงก็ลองอ่านนี่ดูอีกครั้งน่ะ “สุภาษิตสอนนาย”

สุภาษิตของเก่าท่านเล่าขาน
มาแต่ครั้งโบราณมีมากหลาย
เป็นคำกลอนสอนสั่งทั้งหญิงชาย
“สุภาษิตสอนนาย” ไม่เห็นมี

แม้โชคช่วยอำนวยให้เป็น “นาย” เขา
อย่าเป็นคนหูเบาไม่ถ้วนถี่
จับเอาความข้างเดียวเที่ยวพาที
หากความจริงไม่มีจะเสียการ

นายที่ดีต้องเอาใจใส่ลูกน้อง
คอยสอดส่องสุขทุกข์อยู่ทุกด้าน
คอยช่วยเหลือเมื่อลูกน้องนั้นต้องการ
แต่ไม่ถึงกับจุ้นจ้านจนเกินควร

แม้นลูกน้องทำผิดไม่คิดข่ม
พิจารณาเหมาะสมโดยถ้วนทั่ว
จึงเรียกมาว่ากล่าวเท่าที่ควร
ไม่ลามรวนเรื่องเก่าเก่าไม่เข้าการ

อันการเตือนนั้นเล่าให้เข้าท่า
ไม่ควรดุต่อหน้าคนทั่วบ้าน
เรียกไปเตือนสองต่อสองห้องทำงาน
เที่ยวโจษขานลับหลังฟังไม่งาม

งานสำเร็จลงก็ด้วยเขาช่วยกัน
ไม่ควรดื้อถือรั้นไม่ฟังห้าม
เป็นนายเขาเอาแต่ใจใครจะตาม
ควรฟังความเห็นอื่นบ้างเป็นทางดี

อันการงานทั้งหลายควรจ่ายแจก
มีการจัดแบ่งแยกเป็นหน้าที่
หากคนเดียวจะรวบไว้ไม่เข้าที
ลูกน้องที่ไหนจะมีกำลังใจ

เป็นนายเขาต้องขยันหมั่นศึกษา
ให้เป็นคนก้าวหน้าทันสมัย
ไม่ล้าหลังห่างเหินจนเกินไป
ลูกน้องก้าวหน้าไกลตามไม่ทัน

ไม่จำเป็นต้องศึกษามากกว่าเขา
ให้เป็นหลักพอเป็นเค้าเขาเชื่อมั่น
แม้เป็นนายรู้จักใช้สบายครัน
ไม่จำเป็นต้องฟาดฟันอยู่คนเดียว

เมื่อลูกน้องจะก้าวหน้าก็อย่าขวาง
หรือคิดหาลู่ทางคอยหน่วงเหนี่ยว
อยากจะเก่งเลิศล้นอยู่คนเดียว
แล้วหน่วงเหนี่ยวกันท่าพาเสียคน

เมื่อมีส่วนควรแบ่งไม่แย่งก่อน
ลูกน้องต่างเดือดร้อนอยู่ทุกหน
ไม่คิดแต่จะเอาเข้ากระเป๋าตน
คิดถึงคนอื่นเขาจึงเข้าการ

อันหัวหน้าที่ดีมีเมตตา
ปรารถนาให้เขาสุขทุกสถาน
มีกรุณาคอยช่วยด้วยต้องการ
ให้เขาผ่านพ้นทุกข์มีสุขใจ

ประกอบมุทิตาคือพาชื่น
เห็นคนอื่นก้าวหน้าพาสดใส
ไม่มัวคิดริษยาพาเสียใจ
เขาทำได้ดีกว่าผิดอารมณ์

อีกทั้งมีอุเบกขาไม่อาฆาต
เห็นลูกน้องผิดพลาดไม่ทับถม
คอยจับผิดคิดดุว่าตามอารมณ์
ไม่เหมาะสมเป็นหัวหน้าพาเสียการ

หัวหน้าดีนั้นให้เห็นเป็นตัวอย่าง
ช่วยเขาทำทุกทางจนรอบด้าน
ไม่เอาเปรียบใช้คนอื่นตัวชื่นบาน
แล้วเสนอผลงานเพื่อตนเอง

เมื่อปัญหาเกี่ยวไปถึงภายนอก
ตัวหัวหน้าต้องออกจึงจะเก่ง
เข้ารับผิดชอบช่วยด้วยตนเอง
ลูกน้องถึงจะเกรงว่าเอาการ

แม้หัวหน้าคนใดได้เช่นนั้น
คงจะมีคนรักสมัครสมาน
มีคนขอเป็นลูกน้องเกินต้องการ
ใครพบพานก็เป็นบุญเกื้อหนุน เอย

ถ้าใครได้อยู่หรือได้ทำงานในหน่วยงานที่มีลักษณะดังกล่าวข้างต้น ถือได้ว่า โชคดีสุดๆ อีกทั้งองค์การก็เจริญตามไปด้วย แต่ถ้าไม่ ก็ ........ แล้วกันน่ะ ไม่บอกปล่อยให้งง!!

2007-12-13 04:03:19 · answer #2 · answered by noin@ 4 · 0 0

ประเด็นคือการสร้างสมานฉันท์ในที่ทำงานอย่างไร กับทุกวิธีที่กล่าวมาข้างต้นไม่เอาด้วยแน่ๆครับ นั่นเป็นสมานแผลทั้งนั้นเลยครับ ถ้าเกิดเหตุการณ์ขึ้นจริงจากองค์กรที่กล่าวถึงจริงๆ การแก้ปัญหาที่ดีที่สุดคือ เลิกจ้างเจ้านายคุณก่อนเป็นอันดับแรก เพราะคติลูกน้องผิดคือเจ้านายผิดไม่ดูแลสั่งสอนอบรมหรือตักเตือน หรือรู้เขารู้เราเกี่ยวกับการทำงานและการเป็นอยู่ของพนักงานเลยมันปลายเหตุและช้าไปแล้ววิธิการที่แก้ใด้ดีที่สุดคือเอาหัวหน้าใหม่ที่เก่งคนเก่งงานมาดูและประสานสิบทิศใด้ครับการทำงานที่มีคนหมู่มากย่อมมีปัญหาและความสามัคคีในหมู่คณะก็เป็นเรืองสำคัญยิ่ง

2007-12-12 23:54:06 · answer #3 · answered by Ƹ̵̡Ӝ̵̨̄Ʒmimi antodiniƸ̵̡Ӝ̵̨̄Ʒ 6 · 0 0

โดยส่วนตัวไม่เคยเจอลักษณะนี้ค่ะ แต่โดนในลักษณะเด็กใหม่มาแรง ทำให้หลายคนเพ่งเล็ง ซึ่งเป็นความกดดันอย่างหนึ่งเหมือนกัน ปัจจุบันทุกวันนี้ก็ใช้วิธี ทำงานของตัวเองให้ดีที่สุด และพยายามอ่อนน้อมยอมรับว่ายังใหม่ในวงการค่ะ ซึ่งก็ยังไม่เจอผู้ใหญ่คนไหนว่าอะไรต่อหน้า แต่ลับหลังอาจจะมีที่พูดถึง(55)

ส่วนเพื่อนร่วมงานที่พูดจาไม่ถูกหูก็มีเหมือนกัน แต่พยายามปล่อยให้ผ่านหูไปเลย หรือเลี่ยงไม่เจอกัน เพราะสำหร้บตัวเองแล้วเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุดสำหรับการทำงาน เพราะว่าเรายังต้องเจอกันอีกทุกวัน การสร้างศัตรูจึงไม่เหมาะเท่าไรค่ะ

2007-12-12 13:39:46 · answer #4 · answered by polla 2 · 0 0

ถ้าเป็นตัวเอง คงไม่เลือกทั้งสามวิธี เพราะมันเป็นการสร้างศัตรู อึดอัดและต้องเสแสร้งต่อกันค่ะ อยากยิ้มให้เขา ทำดีกับเขาและบอกว่าดิฉัน(ผม)เชื่อมือคุณ เรามาร่วมงานกันเถอะ ทำด้วยความยินดีไม่ใช่แกล้งทำ คิดว่าการพูดอย่างเป็นมิตรและจริงใจน่าจะทำให้เขากระอักกระอ่วนใจ เหมือนเอาน้ำเย็นและเมตตาเข้าลูบ พื้นฐานคนเราลึกๆใครก็อยากเป็นคนสำคัญและจิตใจดีมันต้องมีอยู่บ้าง ให้ความสำคัญกับลูกน้องและเพื่อนร่วมงานเหมือนเขาเป็นเพื่อนของเรา คุณคิดไหมว่าเขาจะเปลี่ยนไปได้ พูดดีกับเสียดสีคนชอบแบบไหนมากกว่ากัน ถ้ามีใครมาพูดกับเราดีๆ ทำให้เรารู้สึกอิ่มใจ เราย่อมมีกำลังใจทำงานให้เขาค่ะ

2007-12-12 12:09:41 · answer #5 · answered by กระจกใส 7 · 0 0

fedest.com, questions and answers