คุณเคยลองนั่งคิดดูบ้างไหมว่านโยบายประชานิยมของแต่ละพรรคต้องใช้เงินเท่าไร

Question

ดูจะเป็นการยากสำหรับคนที่จะไปเลือกตั้ง เพราะไม่ได้เลือกขาวกับดำ แต่ขาวกับขาวและแยกออกจากกันได้ยากมาก แนวทางหนึ่งคือคำนวณดูว่านโยบายที่ประกาศออกมาจะใช้เงินเท่าไร และสถานะการเงินการคลังของประเทศจะรับได้หรือไม่ สำหรับผมอยากเลือกพรรคที่ให้แก่ประชาชนมาก แต่ใช้เงินน้อยที่สุด ช่วยด้วยครับ

Answer 1

การใช้เงินตามนโยบายของแต่ละพรรค คงคำนวณลำบากค่ะต้องบวกหลายอย่างคงจะคำนวณไม่ถูกแน่ๆ แต่พรรคจะหาเงินทุนต่างๆเหล่านี้ได้จากที่ไหนล่ะ นี้แหละคือปัญหาใหญ่ คงต้องพึ่งรัฐบาลเข้ามาช่วยเหลือและกำกับดูแลค่ะ

Answer 2

แนวทางประชานิยมที่ไทยรักไทยเคยประสบความสำเร็จในอดีตถูกนำมาใช้เป็นแนวทางในการหาเสียงตอนนี้ ทั้งที่สมัยก่อนไม่มีแพคเกจอะไรอย่างนี้

ถ้าลองสืบค้นกันแล้ว เราจะพบว่า จริงๆ แล้วรัฐบาลสมัยเก่าของประชาธิปัตย์และพรรคอื่นๆ เขาเคยทำบ้างแล้ว แต่อ่อนซ้อมเรื่องประชาสัมพันธ์ หรือคุมพรรคผสมต่างๆ ให้ทำงานให้ดีไม่ได้ บางพรรคก็แทบจะไม่ได้ทำอะไรนอกจากเปลี่ยนชื่อยาม้าเป็นยาบ้า

เอาเป็นว่าตอนนี้ผมโฟกัสแค่สองพรรคนะครับ พลังประชาชนกับประชาธิปัตย์ละกัน เพราะนอกนั้นเขาจะต้องเป็นพรรคผสมอยู่แล้ว นโยบายที่นำเสนออาจจะได้นำมาใช้ไม่กี่ข้อ และอำนาจต่อรองก็จะน้อยกว่า

พรรคประชาธิปัตย์ แพคเกจ 99 วันทำได้จริง
- เรียนฟรีจบชั้นมัธยมปลายฟรี
- ลดค่าครองชีพของประชาชน
- กระจายเงินลงทุนสู่ตำบลและชุมชน
- แก้ปัญหาภาคใต้

พรรคพลังประชาชน ประชานิยม 3 สูตร
คลิกคำว่า "นโยบายพรรค" เข้าไปเจอแต่เน้นนโยบายเศรษฐกิจ แต่อย่างอื่นไม่พูดถึงเลย น่าแปลกใจ แต่ 3 สูตรกาแฟนี่ก็น่าสนใจหลายตัว

1. นโยบายประชานิยมสูตรต้นตำรับ อาทิ 30 บาทรักษาทุกโรค กองทุนหมู่บ้าน ธนาคารเพื่อประชาชน และ เอสเอ็มแอล รวมทั้งหวยบนดิน กองทุนเรียนก่อนผ่อนทีหลัง การขจัดยาเสพติด โอท็อป
2.ประชานิยมสูตรพิเศษ
3.การหารายได้เข้าประเทศ การท่องเที่ยวและตั้งตัวเป็นศูนย์กลางด้านยาและการแพทย์

ทั้งหมดนี้ไม่ค่อยมีใครออกมาระบุว่าจะต้องใช้เงินเท่าไหร่ แต่ค่อนข้างชัดเจนว่าพรรคประชาธิปัตย์จะนำมาจากภาษีของประชาชน ส่วนพรรคพลังประชาชนจะกึ่งรับกึ่งสู้ไม่บอกว่าเอามาจากไหน เลยตอบไม่ได้เหมือนกันว่ามาจากที่ไหน

แต่ผมเชื่อว่าประเด็นของคุณที่อยากรู้ก็คือ 'ถ้านโยบายพวกนี้ต้องใช้เงินเยอะ อาจจะทำไม่ได้จริง ก็จะกลายเป็นแค่นโยบายสวยหรู' ซึ่งตอนนี้ทั้งสองพรรคก็เน้นบอกว่า "ทำได้จริง ขอให้เชื่อมั่น"

เท่าที่ดูแผนปฎิบัติการแล้วผมก็เชื่อมั่นว่าทำได้ทั้งคู่นั่นแหละ แต่พรรคไหนที่เข้ามาแล้วจะไม่โดนแทรกแซงจนกระทั่งปฎิบัติตามนโยบายไม่ได้ น่าจะเป็นปัญหามากกว่า

Answer 3

แค่ตัวเลขกลมๆ ก็จะเป็นลมแล้วละครับ ท่าน
เห็นได้ชัดๆเลย ว่าแต่ละพรรคล้วนเป็นนักจ่ายเงิน
ใครหว่า...ทำวิจัยว่าคนไทยตาโต
เห็นแค่ตัวเลขก็ฝันหวาน ซะแล้ว
พรรคไหนบ้างน้อ คิดวิธีหาเงิน
แบบ เป็นรูปธรรมหน่ะ
กระเป๋าฉีกไปถึงไหนๆ แล้ว รับความจริงกันบ้างเถอะนักการเมืองจ๋า

Answer 4

ไม่ต้องไปคำนวณให้เปลืองสมอง เพราะคำตอบของมันอยู่ที่คุณจะหาเงินเข้าประเทศอย่างไร และคุณจะบริหารงบประมาณที่มีอย่างไรต่างหาก แล้วพรรคไหนที่มีเค้าว่าจะมีปัญญาทำอย่างนี้ได้ ประวัติศาสตร์เป็นคำตอบ ให้ลองประเมินดู ก็พอจะแยก ขาว กับ เขา ได้ไม่ยากนัก ประเทศเราไม่มีทางเลือกมากนักหรอก