English Deutsch Français Italiano Español Português 繁體中文 Bahasa Indonesia Tiếng Việt ภาษาไทย
หมวดหมู่ทั้งหมด

ความแตกต่างกันของมันคืออะไร แล้วน้ำมันดิบชนิด sour crude กับ light sweet crude มันเอาไว้ทำอะไรกันแน่

2007-12-04 15:01:54 · 3 คำตอบ · ถามโดย Brunello 6 ใน วิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ วิชาเคมี

3 คำตอบ

ปิโตรเลียม คือ สารพวกไฮโดรคาร์บอนและอาจจะพบสารอินทรีย์ที่มีธาตุ O N หรือ S เป็นองค์ประกอบอยู่บ้างเล็กน้อย เกิดจากการตายทับถมของซากพืชซากสัตว์นับเป็นเวลานับล้าน ๆ ปี

ปิโตรเลียม แบ่งเป็น
1. ก๊าซธรรมชาติ คือ ก๊าซไฮโดรคาร์บอนมี CH4 C2H6 C3H8 C4H10 ส่วนมากจะเป็น CH4
2. น้ำมันดิบ คือ สารประกอบไฮโดรคาร์บอนจำนวนมากมายปนกัน สารพวกนี้มีจุดเดือดแตกต่างน้อย จึงแยกด้วยวิธีการกลั่นลำดับส่วน

การกลั่นน้ำมันดิบคือ การย่อยสลายสารประกอบไฮโดรคาร์บอนที่เป็นส่วนประกอบของปิโตรเลียมออกเป็นกลุ่ม (Groups) หรือออกเป็นส่วน (Fractions) ต่างๆ โดยกระบวนการกลั่น (Distillation) ที่ยุ่งยากและซับซ้อน น้ำมันดิบในโรงกลั่นน้ำมันนั้น ไม่เพียงแต่จะถูกแยกออกเป็นส่วนต่างๆ เท่านั้น แต่มลทิน (Impurities) ชนิดต่างๆ เช่น กำมะถัน ก็จะถูกกำจัดออกไปอีก โรงกลั่นน้ำมันอาจผลิตน้ำมัน แก๊ส และเคมีภัณฑ์ที่แตกต่างกันออกมาได้มากมายถึง ๘๐ ชนิด ผลิตภัณฑ์ที่สำคัญที่สุดคือ เชื้อเพลิงชนิดต่างๆ จากน้ำมันส่วนที่เบากว่า (Lighter fractions) เช่น น้ำมันเบนซิน (Petrol หรือ Gasoline) พาราฟิน (Parafin หรือ Kerosene) เบนซีน (Benzene) แต่น้ำมันส่วนที่หนักกว่า Heavier fractions) ก็จะได้เป็นน้ำมันดีเซล (Diesel) น้ำมันหล่อลื่น (Lubricants) และน้ำมันเตา (Fuel oils) ค่ะ

***ดังนั้นน้ำมันเบนซินและดีเซลก็มาจากการกลั่นน้ำมันดิบตัวเดียวกันค่ะ แต่มีสารอินทรีย์ที่มีกำมะถัน ออกซิเจนและไนโตรเจนเป็นองค์ประกอบอีกหลายชนิดที่แตกต่างกัน และมีจุดเดือดในการกลั่นที่ต่างกันด้วยค่ะ

หลักการก็มีอยู่ว่า เผาน้ำมันดิบให้อุณหภูมิสูงขึ้น อะไรระเหยก่อนหลัง และเมื่อระเหยไปแล้ว อุณหภูมิลดลง ก็ควบแน่นกลับมาเป็นของเหลว อีกครั้ง
สารไฮโดรคาร์บอนที่แบ่งได้จากการกลั่นลำดับ เรียงจากจุดเดือดต่ำไปหาสูง ดังนี้
ก๊าซปิโตรเลียม (C1 - C4), น้ำมันเบนซิน, น้ำมันก๊าด, น้ำมันดีเซล, น้ำมันหล่อลื่น, ไข, น้ำมันเตา, บิทูเมน

โดยทั่วไป การแบ่งประเภทของน้ำมันดิบจะแบ่งตามความหนาแน่น (Density) จากต่ำไปสูง (Light to Heavy) และปริมาณกำมะถัน จากต่ำไปสูง (Sweet to Sour) น้ำมันดิบประเภทที่มีความหนาแน่นและกำมะถันต่ำ (Light Sweet Crude Oil) จะมีราคาสูงกว่าน้ำมันดิบประเภทที่มีความหนาแน่นและกำมะถันสูง (Heavy Sour Crude Oil) ทั้งนี้ เพราะกระบวนการกลั่นและกระบวนการกำจัดสารปนเปื้อนที่มีขั้นตอนน้อยกว่า และให้ผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปที่มีราคาสูงในปริมาณมากกว่า เช่น น้ำมันเบนซิน น้ำมันก๊าดและ น้ำมันดีเซล

ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมสำเร็จรูปที่สำคัญ
ผลิตภัณฑ์ดังต่อไปนี้เป็นผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมสำเร็จรูปหลักที่ได้จากโรงกลั่นน้ำมัน

ก๊าซปิโตรเลียมเหลว

น้ำมันเบนซิน

สารทำละลาย (Solvent)

ผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี

น้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องบิน/น้ำมันก๊าด

น้ำมันดีเซล

น้ำมันเตา

ยางมะตอย

ถ่านโค้ก

น้ำมันที่ใช้กันอยู่ในโลกเป็นน้ำมันแบบที่เรียกว่า Light Sweet Crude Oil (ที่เรียกว่า sweet เพราะมีกำมะถันอยู่น้อยกว่า 5 เปอร์เซ็นต์ ถ้ามากกว่าจะเรียกว่า sour crude) และมี ไฮโดรเจนซัลไฟด์ และ คาร์บอนไดออกไซด์น้อย
น้ำมันที่มีคุณภาพสูงพวกนี้ จึงถูกใช้ผลิตเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงได้
ถ้านำน้ำมันดิบประเภทอื่นมาใช้ผลิตก็ต้องผ่านขบวนการกลั่นที่ซับซ้อนมากขึ้น
ราคาน้ำมันที่เกิดจากการกลั่นน้ำมันที่มีคุณภาพรองลงมาก็จะมีราคาที่สูง

***ความแตกต่างระหว่างsour crude กับ light sweet crude
ถ้าเป็นsour crude ก็จะมีกำมะถันผสมอยู่มากและมักจะมีลักษณะเป็นwax มากกว่าทำให้กลั่นได้ยากขึ้น ส่วนใหญ่จะพบที่เวเนซูเอล่า ซาอุดิอาระเบีย
ปัจจุบันซาอุอาระเบียเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ของโลก ซึ่งน้ำมันส่วนใหญ่เป็นน้ำมันชนิด sour crude ส่วนในสหรัฐและเขตทะเลเหนือของอังกฤษนั้นจะเป็นน้ำมันชนิด light sweet crude มากกว่าค่ะ โดยน้ำมัน sour crude จะกลั่นได้สัดส่วนของน้ำมันคุณภาพสูงเช่นเบนซินและดีเซลได้น้อยกว่า sweet crude เนื่องจากต้องมีขบวนการกำจัดสารกำมะถันหรือซัลเฟอร์ออก ซึ่งทำให้ต้นทุนสูงกว่าค่ะ

รูปขบวนการกลั่นปิโตรเลียม เพื่อให้ได้น้ำมันชนิดต่างๆดูได้ที่นี่ค่ะhttp://www.marinerthai.com/sara/view.php?No=1115

2007-12-04 16:24:42 · answer #1 · answered by กระจกใส 7 · 2 0

เท่าที่ทราบมาน่ะคะ แต่เราไม่ใช่มืออาชีพในเรื่องของน้ำมันมากนัก
แต่.....ในฐานะที่เคยทำงานเกี่ยวกับน้ำมันเท่าที่ทราบมา จะใช้วัตถุดับตัวเดียวกันค่ะ แต่จะต่างกันก็แค่ ค่าออกเทนค่ะ บ้างไม่บริสุทธิ์ก็จะเป็นค่าออกเทนต่ำ อันได้แก่ ดีเซล และถ้าค่าออกเทน มากมาอันดับที่สองก็น่าจะเป็น เบนซิลค่ะ จะเรียกว่า 91
และอันดับสุดท้ายก็จะมีค่าออกเทนที่บริสุทธิกว่าเพื่อนคือ เบนซิน 95 ค่ะ

2007-12-05 07:32:24 · answer #2 · answered by Anonymous · 1 0

http://www.howstuffworks.com/question105.htm

2007-12-05 03:01:57 · answer #3 · answered by Perks L 1 · 1 0

fedest.com, questions and answers