English Deutsch Français Italiano Español Português 繁體中文 Bahasa Indonesia Tiếng Việt ภาษาไทย
หมวดหมู่ทั้งหมด

การลงมติผลถือเอาเสียงส่วนใหญ่ ออกมาอย่างไรแสดงว่า คำตอบนั้นถูกต้องแล้วใช่ใหม

2007-12-01 23:33:27 · 14 คำตอบ · ถามโดย Brunello 6 ใน สังคมศาสตร์ สังคมวิทยา

14 คำตอบ

ไม่จริงเสมอไป ถ้าทุกคนมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องนั้นๆเท่าเทียมกัน เราก้อาจจะยอมรับได้ เพราะความเห็นส่วนหนึ่งโดนกลั่นกรองมาจากความรุ้แล้วและอีกส่วนคือความเห็นชอบส่วนบุคคลว่าเลือกมาดีที่สุด อันนั้นเราว่าน่าจะเป้นความคิดเห้นที่ดีที่สุด

แต่บางครั้งเสียงก็โดนอำนาจต่างๆมาครอบงำ หรือขาดความรู้เพื่อนำมาวิเคราะห์และพิจารณาในการตัดสิน

2007-12-02 01:38:09 · answer #1 · answered by NooaoM 4 · 1 0

เสียงส่วนใหญ่เป็นเสียงที่เราควรยอมรับแต่ถ้าเป็นเราถ้าเรามั่นใจในเรื่องอะไรซักเรื่องต่อให้เสียงนั้นจะใหญ่เท่าภูเขาเราก็ไม่เชื่อ..อาจจะแค่รับฟังเฉยๆ ..เงียบไว้..แต่ไม่พูดหรอกนะว่าฉันไม่เชื่อเธอนะ..เดี๋ยวโดนหมั่นไส้เปล่าๆ......แต่ถ้าไม่ค่อยมั่นใจก็ต้องรับฟังคนอื่นบ้างก็ดีนะ....เพราะการอยู่ในสังคมส่วนรวมเราก็ต้องยอมรับความคิดเห็นของคนอื่นด้วยไม่ใช่เห็นความคิดเห็นของตัวเองเป็นใหญ่อย่างเดียวนะ.....

2007-12-03 04:27:31 · answer #2 · answered by Anonymous · 1 0

แน่นอนครับเพราะว่าเราอยู่ในระบบประชาธิไตยที่ เอาเสียงส่วนมากเป็นเสียงตัดสิน แต่ว่าคำตอบที่ได้รับการลงมตินั้น อาจจะไม่เป็นคำตอบที่ถูกก็ได้ แต่คนส่วนใหญ่เห็นว่ามันถูก เราก็ต้องถือว่าเป็นคำตอบที่ถูกไปโดยปริยาย ทรราชเสียงข้างมาก หรือ ทรราชโดยเสียงส่วนใหญ่ (อังกฤษ: Tyranny of the Majority) เป็นแบบการปกครองโดยใช้เสียงส่วนใหญ่ไปกระทำการชั่วร้ายต่าง ๆ แล้วกลับอ้างเอาว่าเสียงส่วนใหญ่ได้ให้ความเห็นชอบแล้ว การใช้เสียงส่วนใหญ่ลักษณะนี้เป็นเรื่องน่ากลัวมาก และไม่ควรยึดถือรับเป็นหลักการของการตัดสินใจ[1] นักวิชาการเรียกระบอบทักษิณว่าเป็นทรราชเสียงข้างมาก[2] เนื่องจากเป็นลักษณะการบริหารประเทศ ที่มีแนวโน้มรวบอำนาจแบบเบ็ดเสร็จ
ผมมีบทความจากที่ได้อ่านน่าจะทำให้คุณ รู้ถึงการที่ใช้เสียงส่วนใหญ่ เป็นตัวตัดสิน
มุมมองจากคอลัมนิสต์ชื่อดังของหนังสือพิมพ์ยอดขายสูงสุดของประเทศไทย
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐฉบับวันที่ 19 สิงหาคม 2550
โลกปัจจุบันก้าวเข้าสู่ยุคโลกาภิวัฒน์เต็มตัว หลายประเทศรอบบ้านเรา ต่างก็ปรับตัวเต็มที่เพื่อสร้างศักยภาพให้สามารถแข่งขันกับชาติอื่นได้อย่างเท่าเทียมกัน ล่าสุด เวียดนามที่เคยถูกมองว่าเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อนล้าหลัง แต่ที่ไหนได้พริบตาเดียวก็กระโจนจากหลุมออกมาวิ่งแข่งชนิดหายใจรดต้นคอประเทศไทยซะแล้ว !!! .............

“เห่าไฟ” อยากเตือนสติให้ทุกฝ่ายที่ตั้งหน้าตั้งตา ทะเลาะเบาะแว้ง ปรับมุมมองให้กว้างมากขึ้นกว่านี้ เลิกขัดแย้งกันในเรื่องตัวบุคคลเสียที ตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุดก็คือต้องเร่งนำพาบ้านเมืองกลับสู่ความเป็นประชาธิปไตยโดยเร็ว ยุติการตั้งแง่กับตัวบุคคลแล้วเปิดใจกว้างยอมรับความแตกต่างทางความคิดเห็น รวมถึงยึดหลักเสียงข้างมากชี้ขาดปัญหาทางการเมือง เพื่อให้ทุกอย่างเดินหน้าเสียที !!! ....................

บทเรียนที่ผ่านมา น่าจะสอนให้ทุกฝ่ายเข้าใจการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันในสังคมประชาธิปไตยได้ดีพอสมควร หากไม่ยึดเสียงข้างมากเป็นหลัก ความวุ่นวายก็จะตามมาไม่หยุด ข้อสำคัญ ถ้าคิดว่าเสียงข้างมากทำไม่ถูกต้อง ก็ต้องรณรงค์ให้เสียงข้างน้อยกลายเป็นเสียงข้างมากให้ได้ ไม่ใช่ใช้กำลังไปขับไล่เสียงข้างมาก การทำเช่นนั้น รังแต่จะสร้างความวุ่นวายตามมาไม่รู้จบเหมือนที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน !!! ...........................

“เห่าไฟ” อยากถามผู้มีอำนาจว่า การเข้ายึดอำนาจจากรัฐบาลเสียงข้างมากถือเป็นการปฏิเสธที่จะยอมรับเสียงข้างมากใช่หรือไม่ แต่ตอนนี้ ผู้มีอำนาจก็กำลังจะนำพาสังคมไทยกลับไปยอมรับระบบเสียงข้างมากอีก ไม่ว่าจะเป็นการลงประชามติ หรือการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นช่วงสิ้นปีนี้ !!! .................

นี่คือสิ่งที่ “เห่าไฟ” รู้สึกอึดอัดใจทุกครั้งที่พูดถึงวิธีการปฏิรูปการเมืองในปัจจุบัน เพราะวิธีการในตอนแรกที่ยึดอำนาจ กับตอนที่กำลังคืนอำนาจมันขัดแย้งกันสิ้นเชิง สรุปก็คือ เป็นพฤติกรรมปฏิเสธเสียงข้างมากในตอนแรก แต่ยอมรับเสียงข้างมากในตอนหลัง สิ่งเหล่านี้ไม่ว่าจะอธิบายกับชาวโลกอย่างไรก็ต้องถูกหัวเราะเยาะอยู่ดี !!! ................

โดยเฉพาะชาวต่างชาติที่มั่งคงในหลักการประชาธิปไตย จะรู้ได้ทันทีว่าประเทศไทยกำลังทำในลักษณะเลือกที่รักมักที่ชัง เกลียดปลาไหลกินน้ำแกง แค่ไม่ชอบหน้าใครก็รื้อประเทศเล่นงานจนวุ่นวายไปหมด เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นในเมืองไทย จึงอธิบายให้ชาวโลกเข้าใจได้ยากเต็มที !!! .....

หากไม่เชื่อ ก็รอดูเรื่องที่รัฐบาลไทยกำลังจะไปต่อสู้กันในศาลอังกฤษเพื่อขอตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร กลับมาดำเนินคดีในไทยก็ได้ แม้คนไทยบางส่วนอยากให้ พ.ต.ท.ทักษิณและคุณหญิงพจมานถูกดำเนินคดีในไทยโดยเร็ว แต่เรื่องนี้ใช่ว่ากระบวนการยุติธรรมของไทยจะดำเนินการแต่ฝ่ายเดียวได้ เนื่องจากกระบวนการยุติธรรมของอังกฤษ ได้เข้ามาเกี่ยวข้องอีกส่วนหนึ่งแล้ว !!! ................

ข้อสำคัญ หลายคนอาจไม่เชื่อในเรื่องการลอบสังหารอดีตนายกฯ ทักษิณ แต่จากคดีคาร์บอมบ์ที่จับได้คาหนังคาเขา รวมถึงแผนลอบสังหารด้วยการใช้ปืนติดกล้องที่ล้มเหลว รวมถึงคำให้การของ “จ่ายักษ์” ในเรื่องการวางแผนปฏิวัติและก็เกิดการปฏิวัติขึ้นมาจริงๆ สิ่งเหล่านี้ถือเป็นประจักษ์พยานได้ว่า ชีวิตของอดีตนายกฯ ทักษิณมีความปลอดภัยแค่ไหนในเมืองไทย !!! ..........

ตอนแรก “เห่าไฟ” ก็เชื่อเหมือนกันคนอื่นว่า คดีคาร์บอมบ์คือคดีคาร์บ๊อง แต่ภายหลังทุกอย่างก็ปรากฏชัดเจนว่าเป็นเรื่องจริง จิ๊กซอว์แต่ละตัวโผล่ออกมาให้เห็นจนกลายเป็นภาพที่น่ากลัวสำหรับรัฐบาลประชาธิปไตย สิ่งเหล่านี้ไม่มีใครอยากพูดถึง เพราะหลายคนจงใจไม่พูดถึงความจริงที่โหดร้ายอีกด้านหนึ่ง เนื่องจากกำลังสะใจกับการขุดคุ้ยความจริงเพียงด้านเดียวอยู่นั่นเอง !!! .......

มองข้ามช็อตไปถึงสถานการณ์หลังเลือกตัว บรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย บอกว่าน่าจะมีการตั้งรัฐบาลผสมไม่ต่ำกว่า 5 พรรค “เห่าไฟ” เห็นด้วยร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะผู้มีอำนาจในปัจจุบันก็ต้องการอย่างนั้น หมายความว่า รัฐบาลในอนาคตจะเต็มไปด้วยความอ่อนแอขี้โรค ขี้โกง โดยเฉพาะพรรคแกนนำจะไม่กล้าเล่นงานพรรคร่วมเพราะกลัวฐานค้ำบัลลังก์พังพาบ นี่คือผลพวงจากการทำลายรัฐบาลเสียงข้างมากในอดีต ด้วยข้อกล่าวหาเลอะเทอะว่าเป็นเผด็จการรัฐสภา !!! ..........

ที่ว่าเลอะเทอะก็เพราะพรรคการเมืองใดก็ตาม หากจะผลักดันนโยบายที่ไปสัญญาไว้กับประชาชนให้ได้ ก็ต้องเป็นรัฐบาลพรรคเดียวเสียงข้างมาก หากเป็นหลายพรรคก็ทะเลาะกันเหมือนในอดีตอีก เอาเข้าจริง พรรคที่ขี้แพ้เท่านั้นที่ต้องการให้รัฐบาลในอนาคตเป็นรัฐบาลผสมหลายพรรค แต่นานไป ถ้าพรรคไหนได้เป็นแกนนำรัฐบาลบ่อยครั้งเข้า ก็จะดิ้นรนแก้ไขกฎกติกาให้เหลือน้อยพรรคลง ไม่เชื่อก็คอยดูกันไป !!! ......

“เห่าไฟ” ถึงบอกว่า ทุกวันนี้การเมืองไทยเต็มไปด้วยความสับสน ไม่ว่าจะทำอะไรก็พันคอตัวเองไปหมด เหตุก็เพราะไม่ยึดหลักการให้มั่น เพียงแค่เกลียดขี้หน้าบางคน หมั่นไส้บางคน ก็ยอมทำลายหลักการเพื่อหาทางเล่นงานทุกวิถีทาง แต่ทำไปทำมา พอเจอคำถามย้อนศรเข้าให้ก็หงายหลังตึง ตอบชาวโลกไม่ได้ สยามเมืองยิ้มคราวนี้เห็นทีต้องยิ้มเจื่อนๆ กลบเกลื่อนกันไปวันๆ อีกนานแสนนาน !!! ....................

2007-12-02 23:53:13 · answer #3 · answered by esara 2 · 1 0

มติเสียงส่วนใหญ่นั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้องแต่อาจจะไม่ถูกใจ เพราะเสียงส่วนใหญ่นั้นครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด สภาพและสิ่งแวดล้อมต่างๆ แนวความคิดต่างๆ มาจากทุกมุมของประเทศ เราไม่อาจบอกได้ว่าคำตอบใดถูกต้องที่สุดเพราะนี่ไม่ใช่โจทย์คณิตศาสตร์นะครับที่ต้องมีคำตอบที่ถูกต้องที่สุด เราไม่สามารถจะบอกได้ว่ามติของคนเมือง หรือมติของคนต่างจังหวัดถูกต้องที่สุด นั่นทำให้เราต้องยึดมั่นในกติกาสังคม

2007-12-02 20:20:49 · answer #4 · answered by electric man 3 · 1 0

อาจจะไม่ถูกต้องเสมอไปหรอกครับ
แต่เราอยู่ในสังคมและสังคมต้องมีกฎเกณฑ์
การนำกฎเกณฑ์มาใช้ต้องมีการจำกัดสิทธิบางประการครับ
กฎเกณฑ์ไม่สามารถทำให้คนส่วนใหญ่มีความสุขได้ทั้งหมด
แต่คนส่วนรวมยอมรับก็ต้องยึดถือและปฏิบัติไปในแนวทางเดียวกันครับ

2007-12-02 14:59:29 · answer #5 · answered by Kid D 5 · 1 0

เสียงส่วนใหญ่เมื่อลงมติผ่านคือเรื่องที่ยอมรับในระบบประชาธิปไตย แต่ไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องที่ถูกต้องเสมอไป
คำตอบนั้นมีโอกาสถูกต้องมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับคุณธรรมของผู้ลงมตินั่นมากกว่า ในหลายสถานการณ์ สังคมที่มีคนทุรชนมาก เรื่องที่ผ่านมติสถาบันต่างๆก็เป็นเรื่องที่ไม่มีคุณธรรมแต่เป็นเรื่องผลประโยชน์พวกพ้องไม่ใช่เพื่อส่วนรวม
ในขณะเดียวกันสิ่งที่คนส่วนใหญ่ทำก็ไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งที่ถูกต้องเช่นกัน ตัวอย่างเช่น การจอดรถในบางสถานที่รถส่วนใหญ่จอดในที่ห้ามจอดกันจนเหมือนว่าไม่ผิดกฎจราจรและไม่เป็นไร สิ่งที่ผิดจึงดูเหมือนจะกลายเป็นถูกไปโดยปริยาย

2007-12-02 11:30:30 · answer #6 · answered by peterpan 3 · 1 0

ถ้าอยู่ในสังคมประชาธิปไตย ก็ถือว่าเป็นการกระทำที่ถูกต้อง ในเมื่อทุกคนยอมรับ กติกาที่ว่า เสียงส่วนใหญ่ คือ "คำตอบสุดท้าย" ไม่เช่นนั้นแล้ว ท่านก็คงต้องไประบุใหม่ว่า เสียงส่วนใหญ่ไม่ใช่ คำตอบสุดท้าย ถ้าเป็น"คำตอบที่ท่านไม่ชอบ" ...แล้วใครหล่ะที่ชอบ ...? แล้วแบบนี้จะลงมติไปทำไม ... "ออกกฎ" มาซะเลยดีกว่า ง่ายกว่ากันแยะ ... ถ้าท่านชอบแบบนั้น (พูดแล้วก็ต้องทำตามที่พูด เค้าจะเรียกได้ว่าเป็น "สุภาพชน" จริงไหมน้อ? ) หรือถ้าได้ยินได้ฟังกันมาก็เรียกว่า "การให้เกียรติ" ซึ่งกันและกัน ... ถ้าไม่ยอมรับความคิดคนอื่นเลยในหลักการปกครองเค้าเรียกว่า อะไรดี? .... คุ้นๆ กันมั่งไหม หรือไม่ก็ท่านเหล่านั้น ...ใช้ซะจนชิน โดยลืมไปว่าตอนนี้อยู่ในอีกสังคมแล้ว...

"ถูก ณ.เวลานั้น" แต่อาจจะ"ผิดอย่างมหันต์" ณ.อีกช่วงเวลาหนึ่ง .... จึงมีคนกล่าวว่า ควรใช้ "เวลา" เป็นเครื่องพิสูจน์การกระทำว่า "ใครถูกต้อง หรือไม่ถูกต้อง" ... ว่าแต่จนวันนี้เมื่อไหร่จะพิสูจน์ได้น้อ ..เด็กน้อยตาดำๆ รอความหวังอีกหลายชีวิตนะท่าน .... ว่าจะ....ว่าจะ ..แล้ววันไหนที่จะนำมาแสดงให้ประชาชนได้รับรู้ ตามที่กล่าวไว้วันแรกว่า "ทุกอย่างพร้อมรอการเปิดเผยข้อมูลอยู่แล้ว" เฮ้อ .... นานจัง ^^"

2007-12-02 10:31:01 · answer #7 · answered by noin@ 4 · 1 0

เสียงส่วนใหญ่อาจไม่ใช่คำตอบสุดท้ายที่ถูกต้องเสมอไป มันเป็นเพียงแต่กฎ กติกาของสังคมที่กำหนดไว้เพื่อหาข้อยุติในกรณีที่เกิดความขัดแย้ง หรือความเห็นที่ไม่ตรงกัน เท่านั้น ซึ่งเสียงส่วนน้อยอาจเป็นทางเลือกที่ถูกต้องก็ได้ แต่คนในสังคมส่วนใหญ่อาจไม่ยอมรับเพราะยังไม่เล็งเห็นถึงประโยชน์และความจำเป็นของการกระทำตามความคิดเห็นของเสียงส่วนน้อยนั้น

2007-12-02 10:02:12 · answer #8 · answered by moo112 2 · 1 0

ใช่หรือไม่ใช่
ถูกหรือผิด
บรรทัดฐานของสังคมเขากำหนดให้เป็นอย่างนั้น
ความถูกผิดเป็นทัศนคติตจากการใช้วิจารณญาน
ที่สำคัญคุณหรือผมจะยอมรับมตินั้นหรือไม่
เป็นสิทธิส่วนบุคคล ตามสบาย

2007-12-02 09:51:49 · answer #9 · answered by Kanes 6 · 1 0

ใช่ค่ะ ถ้าเรายังอยู่ในสังคมของเสียงส่วนใหญ่นั้น คนเราคิดไม่เหมือนกันค่ะ ใคร ๆ ย่อมคิดว่าตนเองคิดถูก ดังนั้นเสียงส่วนใหญ๋น่าจะเป็นทางออกของความขัดแย้งนะค่ะ

2007-12-02 09:13:31 · answer #10 · answered by คิดมากจัง 2 · 1 0

fedest.com, questions and answers