รู้สึกว่าถึงเวลาหรือยังที่คุณผู้ชายและคุณผู้หญิง จะเลิกมีกิ๊กกันซะที โรคแบบนี้มองไม่เห็นอีกด้วย อย่าให้ความต้องการที่ขาดคุณธรรม มาทำลายชีวิตเรากันเลยค่ะ
2007-11-29 20:47:07
·
answer #1
·
answered by กระจกใส 7
·
2⤊
0⤋
ในความรู้สึกของเราที่เป็นผู้หญิง เราว่าข้อมูลไม่ค่อยน่าเชื่อถือ สำหรับข่าวนี้
2007-12-01 01:02:23
·
answer #2
·
answered by kae 2
·
2⤊
0⤋
อืมมมม
อู้วววววว
อ่าาาาาาา
อึ้ง
อีน้องเปี๋ยนไป๋
2007-11-30 04:05:52
·
answer #3
·
answered by space lord 6
·
2⤊
0⤋
เรามาร่วมด้วยช่วยกัน รณรงค์ให้ "รักเดียวใจเดียว" กันเถอะนะคะ
2007-11-30 12:10:23
·
answer #4
·
answered by momo 2
·
1⤊
0⤋
ก่อนอารมณ์จะกระเจิง น่าจะเรียนรู้เเละเกรงกลัวโรคเอดส์กันบ้างนะเอาธรรมะเข้าข่มสงบสติอารมณ์รักใคร่กันบ้างน่าจะดีขึ้น แต่ถ้าติดเอดส์แบบไม่ได้มีเพศสัมพันธ์ก็น่าเห็นใจค่ะ
2007-11-30 05:29:55
·
answer #5
·
answered by อาเหนียว หนึบหนับ( อารารั่วโตเเล้ว) 6
·
1⤊
0⤋
เอิ๊ก เก่งจังผู้หญิงคนนี้ ทำได้ไง สามีไม่รู้เลย 555+
2007-11-30 03:42:13
·
answer #6
·
answered by Anonymous
·
1⤊
0⤋
คำตอบ ยังสรุปไม่ได้ว่าปัญหามันอยู่ที่ใด
คุณสามีอาจจะแอบไปทานยาหม้อแล้วหายเป็นปกติก็เป็นได้
หรือคุณภรรยาไม่มีเสน่ห์เอาเสียเลย สามีเลยงดกิจกรรม
ฝ่ายภรรยาเห็นว่าสามีเปลี๊ยนไป๋ก็เลยนอกใจสามี
หรือภรรยาไปมีอะไรกับใครนอกบ้านแล้วเกรงว่าจะมีอะไรติดมา
เลยให้สามีใช้ถุงยางกันไว้ก่อน ก็เป็นไปได้ทั้งนั้น
หรือภรรยาเป็นคนชอบดัดผม ทำเล็บ ไปแว็กซ์ผมทำสีให้น้องๆ
อาจไปติดมาก็ได้
ว่าแต่ว่าเดี๋ยวเราไปเลี้ยงฉลองความโสดในอนาคตอันใกล้ที่ไหนดี
2007-11-30 02:06:44
·
answer #7
·
answered by Kanes 6
·
1⤊
0⤋
จากข่าวหากว่าผู้หญิงติดโรค แต่ผู้ชายไม่ติด ก็ต้องวิเคราะห์ว่า ผู้ชายกับผู้หญิงคนนั้นไม่ได้มีเพศสัมพันธุ์กันมานานแล้วก็ได้ เพราะว่าหากมีเพศสัมพันธุ์กันแล้ว ต้องมีการติดเชื้อ ถึงจะใช้ถุงยางอนามัยก็มีสิทธิ์ติดได้เหมือนกัน ขอฟันธงว่า เลิกมีความสัมพันธุ์กัน เตียงหักแต่อยู่ด้วยกัน
2007-12-01 00:47:39
·
answer #8
·
answered by esara 2
·
0⤊
0⤋
การที่สามีภรรยาทั่วไป พบว่าภรรยาติดเชื้อเอดส์ แต่สามีไม่ติด ถึง 30% นั้น เป็นไปได้ที่ว่า ก่อนแต่งงานฝ่ายหญิงติดเชื้ออยู่แล้ว และไม่บอกสามี หรือไม่ก็อาจเพราะภรรยาได้รับเชื้อมาจากทางใดทางหนึ่งทั้งตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ มีตัวเลขจากเอกสารทางวิชาการระบุว่า การมีเพศสัมพันธ์โดยปกติ ที่ไม่ทำให้เกิดบาดแผลต่ออวัยวะเพศ มีโอกาสติดเชื้อเพียงประมาณ 0.3% ต่อครั้ง ดังนั้น หากสามีที่อยู่ร่วมหลับนอนแบบถนอมนุ่มนวลกับภรรยาที่ติดเชื้อ และรีบล้างหลังทำความสะอาดหลังเสร็จภาระกิจโดยเร็ว โอกาสไม่ติดเชื้อก็เป็นไปได้ ยิ่งถ้าภรรยารับยาต้านไวรัสเพื่อการรักษาอย่างถูกต้องอยู่แล้ว โอกาสที่จะติดเชื้อก็ยิ่งน้อยลง อย่างไรก็ดี มีเรื่องราวอีกมากที่ยังไม่สามารถอธิบายได้ เช่น มีการพบว่า หญิงขายบริการทางเพศบางคน ขายบริการทางเพศทุกวัน ๆ ละหลายครั้งติดต่อกันเป็นสิบปี ก็ไม่ติดเชื้อเอดส์ ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ง่ายนัก และเคยมีเด็กที่ติดเชื้อจากแม่ตั้งแต่เกิด มีชีวิตอยู่ได้นานกว่า 15 ปีแล้วโดยไม่ใช้ยาต้านไวรัสใด ๆ ทั้งหมดทั้งหลายแสดงให้เห็นว่า ทั้งสามีที่อยู่กับภรรยาที่ติดเชื้อ แล้วตัวเองไม่ติดเชื้อ ทั้งหญิงอาชีพพิเศษที่ทำงานนาน แต่ไม่ติดเชื้อ และเด็กอายุกว่า 15 ปีที่ติดเชื้อตั้งแต่เกิด ก็ไม่แสดงอาการป่วย เป็นไปได้ไหม ที่ในร่างกายของคนเหล่านี้ อาจมีความพิเศษบางอย่าง เช่นภูมิคุ้มบางอย่างที่วิทยาศาสตร์การแพทย์ยังไม่รู้อยู่ในตัวเขา ช่วยปกป้องไม่ให้ติดเชื้อไวรัสทำอันตรายตัวเขาได้
2007-11-30 12:47:51
·
answer #9
·
answered by kriangsak v 1
·
0⤊
0⤋
เป้นไปได้ไงถ้าผู้หยิงเจอ แต่ผู้ชายไม่มี แล้วมันมาจากไหน แต่เดี๋ยวนี้ก็อันตราย เพราะอาการมันไม่ได้แสดงทันทีทันได แล้วมันดุไม่น่ากลัวเหมือนตอนแรกๆที่เราเริ่มรู้จัก aids และการสวมถุงยางมันก้แค่การป้องกันเบื่องต้น
2007-11-30 04:24:51
·
answer #10
·
answered by NooaoM 4
·
0⤊
0⤋