English Deutsch Français Italiano Español Português 繁體中文 Bahasa Indonesia Tiếng Việt ภาษาไทย
หมวดหมู่ทั้งหมด

ตอนนี้อยากไปลองฉีด คอร์บ๊อกซี่ ดูบ้างน่ะค่ะ เห็นเค้าบอกว่ามันยุบจริง แค่อยากจะรู้ว่า ลดจริงๆรึงเปล่า แล้วตอนฉีดมันเจ็บมากมั้ยคะ แล้วฉีดครั้งนึง จิ้มหลายทีมั้ยคะ คือจะลดหน้าท้องน่ะค่ะ แล้วต้องไปฉีดกี่ครั้งคะ ขอบคุณมากๆเลยนะคะ

2007-09-25 23:42:12 · 4 คำตอบ · ถามโดย Anonymous ใน ความสวยความงาม ผิวหนังและเรือนร่าง อื่นๆ เกี่ยวกับผิวหนังและเรือนร่าง

4 คำตอบ

ในวันนี้ วิทยาการทางการแพทย์พัฒนาก้าวไกลยิ่งมากขึ้น จนค้นพบเทคโนโลยีสลายไขมันรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า คาร์บ๊อกซ์ซี่เธอราปี “ Carboxytherapy ” ซึ่งสามารถขจัดไขมันและเซลลูไลท์เฉพาะส่วนด้วยวิธีการที่ไม่ซับซ้อนยุ่งยากโดยใช้ระยะเวลาเพียงสั้นๆ เท่านั้น

คาร์บ๊อกซี่เธอราปี “ Carboxytherapy ” คือ การลดไขมันเฉพาะที่ด้วยก๊าชคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นก๊าซที่ละลายน้ำได้ดี สลายตัวได้เร็ว และพบว่าเมื่อฉีด คาร์บอนไดออกไซด์เข้าไปยังชั้นไขมันใต้ผิวหนัง จะช่วยเพิ่มการขยายตัวของเส้นเลือดและทำให้เซลล์ไขมันสลายตัวและถูกกำจัดออกไปนี้ นับเป็นเทคนิคใหม่ในการขจัดเซลลูไลท์หรือลดไขมันเฉพาะส่วนที่ไม่ต้องการ อย่างเช่น บริเวณหน้าท้อง ใต้ท้องแขน สะโพก น่อง หรือ บริเวณก้น...นอกจากนี้ บริเวณน่องที่โต หรือสะโพกที่ใหญ่เกินไป รวมถึงบริเวณแก้มที่ป่องเพราะไขมันที่สะสมอยู่ใต้ผิวหนังก็สามารถแก้ไขได้เช่นกัน โดยเมื่อประมาณปี ค.ศ. 1932 ฝรั่งเศส คือประเทศแรกการนำมาใช้ และขยายความนิยมสู่อิตาลี ในปี ค.ศ.1990 จากนั้น ก็ได้รับการยอมรับและนิยมใช้อย่างแพร่หลายทั้งในเอเชียและยุโรป

ก๊าชคาร์บอนไดออกไซด์ที่นำมาใช้เป็นจะเป็นก๊าชบริสุทธิ์ โดยในวงการแพทย์มีการนำมา ใช้อยู่ก่อนแล้ว อย่างเช่น การฉีดเข้าไปในช่องท้องขณะส่องกล้องตรวจอวัยวะภายในเป็นต้น ซึ่งผลปรากฏว่าไม่ส่งผลอันตรายใดต่อร่างกาย เนื่องจากก๊าซออกซิเจนสามารถละลายน้ำได้ดีและสลายตัวได้รวดเร็ว เมื่อฉีดก๊าซออกซิเจนเข้าไปในผิวหนัง อาจมีอาการปวดและรู้สึกตึง ๆ บริเวณผิวบ้าง หากแต่ประมาณร้อยละ 70 เปอร์เซ็นต์ เมื่อคลำผิวจะได้ยินก๊าชใต้ผิวหนัง แต่จะหายไปเองภายในเวลา 1 ชั่วโมง และร้อยละ 30 เปอร์เซ็นต์ พบว่ามีรอยช้ำเกิดขึ้นและก็จะหายไปได้เอง ข้อควรระวังก็คือ ไม่ควรฉีดในผู้ที่มีปัญหาทางจิต และผู้ที่มีโรคที่เกิดจากระบบไหลเวียนเลือดผิดปกติ เช่น ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคเลือด หรือผู้ที่มีปัญหาระบบทางเดินหายใจเพราะหากก๊าชบางส่วนผ่านเข้าไปในระบบไหลเวียนเลือดอาจทำให้อาการดังกล่าวแย่ลง ก่อนปล่อยก๊าชเข้าไป แพทย์จึงต้องมั่นใจก่อนว่าก๊าชดังกล่าวจะไม่ผ่านเข้าไปเส้นเลือดโดยตรง

การนำ ก๊าชคาร์บอนไดออกไซด์ มาใช้นั้น สามารถทำกันได้ด้วยวิธีการง่ายๆ โดยแพทย์จะทำความสะอาดผิวชั้นนอกด้วยแอลลกอฮอลล์ จากนั้นจะใช้เข็มฉีดยาที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางขนาดเล็กมาก ประมาณ 0.3 มม. สอดเข้าไปในชั้นไขมันใต้ผิวหนัง แล้วปล่อยก๊าชคาร์บอนไดออกไซด์ เข้าไปในแต่ละส่วนตามปริมาณที่เหมาะสม โดยขณะที่ก๊าซผ่านเข้าไปสู่ชั้นผิวนั้น จะรู้สึกอุ่นบริเวณที่ฉีดเล็กน้อย เมื่อคลำผิวบริเวณที่ฉีดจะได้ยินเสียงเหมือนมีแก๊ซอยู่ใต้ผิว (cracking) ควรนวดเบา ๆ หลังการฉีด เพื่อให้ก๊าชกระจายตัวสม่ำเสมอ และทำให้กระบวนการสลายตัวของเซลล์ไขมันดีขึ้น ระยะเวลาในการทำต่อครั้งใช้เวลาประมาณ 15 – 30 นาที เท่านั้น

จากการใช้ปลายเข็มที่มีขนาดเล็กมาก ทำให้แพทย์สามารถสอดเข็มเข้าไปใต้ชั้นผิวได้ง่าย โดยผู้ที่ถูกฉีดแทบไม่รู้สึกเจ็บ จึงไม่มีความจำเป็นต้องฉีดยาชาหรือต้องพักฟื้นหลังการทำแต่อย่างใด สามารถดำเนินกิจวัตรประจำวันตามปกติทุกประการ ซึ่งถือว่าเป็นวิธีการสลายไขมันที่ปลอดภัย เนื่องจากก่อนดำเนินการทุกครั้ง แพทย์จะตั้งอัตราการปล่อยก๊าชต่อนาทีและปริมาณก๊าชรวมที่จะปล่อยเข้าไปที่อุปกรณ์แพทย์เฉพาะทางอย่างละเอียด โดยสัดส่วนในการปล่อยก๊าซเข้าไปสู่ชั้นผิวแต่ละส่วนนั้นจะไม่เท่ากัน มีตั้งแต่ 50 – 200 ซี.ซี ขึ้นอยู่กับตำแหน่งของร่างกาย อย่างเช่น บริเวณใต้คาง จะปล่อยก๊าซเข้าไปเพียง 10 ซี.ซี. ใต้ท้องแขน 50 ซี.ซี. และ หน้าท้องซ้ายขวาข้างละ 100 – 200 ซี.ซี เป็นต้น สิ่งที่เห็นผลภายหลังจากการใช้วีธี คาร์บ๊อกซี่เธอราปี ก็คือ ไขมันบริเวณที่ฉีดเข้าไปจะค่อยๆ สลายตัวและยุบลงไปอย่างรวดเร็ว หากแต่จะให้ได้ผลควรทำสัปดาห์ละ 2 ครั้ง เมื่อทำติดต่อกันอย่างน้อย 3 – 5 ครั้ง จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น

สำหรับในประเทศไทย การสลายไขมันด้วยวิธี คาร์บ๊อกซี่เธอราปี ได้มีการนำเข้ามาใช้แล้วในวงการแพทย์ หากแต่ยังไม่เป็นที่รู้จักแพร่หลายนัก อย่างไรก็ตามเชื่อว่าในอีกไม่นานจะต้องมีการกล่าวขานกันมากขึ้น เนื่องจากเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยให้ไขมันที่พอกพูนหดหายไปได้อย่างรวดเร็ว และปลอดภัย ซึ่งนับเป็นอีกทางเลือกสำหรับคนอ้วนที่รักสวยรักงามในยุคนี้ แถมยังเห็นผลได้เร็วกว่าวิธีการ เมโซเธอราพี ( MESOTHERAPY ) ที่เรารู้จักกันดี แต่ก็ล้าหลังไปแล้ว ในขณะที่ คาร์บ๊อกซี่เธอราปี เป็นวิทยาการล่าสุดที่ได้ผลดีกว่า และไม่มีอันตรายเหมือนการดูดไขมันที่เป็นข่าวครึกโครมกันบ่อยครั้ง ทั้งนี้ หากต้องการข้อมูลเกี่ยวกับ คาร์บ๊อกซี่เธอราปี เเพิ่มเติมก็สามารถสอบถามหาความรู้กันได้

ปัจจุบันการฉีดคาร์บ๊อกซี่ ไม่ได้มีการระบุว่า จะต้องทำโดยแพทย์เฉพาะทางเท่านั้น เพราะเท่าที่เห็นแพทย์ทั่วไปก็สามารถทำได้ เพียงแต่ได้รับการอบรมวิธีการฉีด

รศ.นพ.ป่วน สุทธิพินิจธรรม หัวหน้าภาควิชาตจวิทยา (ผิวหนัง) คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหา วิทยาลัยมหิดล อธิบายว่า คาร์บ๊อกซี่เธอราปี เป็นการลดไขมัน และเซลลูไลท์เฉพาะจุดด้วยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งก๊าซตัวนี้ในทางการแพทย์ใช้ฉีดเข้าไปในช่องท้องขณะส่องกล้อง ทาง รพ.ศิริราช เองก็เคยนำมาทดลองใช้เหมือนกัน แต่ยกเลิกไปแล้ว เนื่องจากค่าใช้จ่ายสูง ผลที่ได้ทำให้ดีขึ้นนิดหน่อย ไม่เห็นผลทันที ต้องทำติดต่อกันหลายครั้ง

ก็จัดว่าเป็นเครื่องมือ หรือวิธีการ หนึ่งที่ช่วยสลายไขมัน และเซลลูไลท์ใต้ผิวหนังแบบชั่วคราว ไม่ใช่วิธีการที่ถาวรเหมือนกับการออกกำลังกาย และควบคุมปริมาณอาหาร

ความจริงก่อนที่จะฉีดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เคยมีการฉีดสารเคมีเข้าไปใต้ผิวหนัง แต่เนื่องจากมีบางคนไปฉีดแล้วแพ้ ถึงขั้นฟ้องร้องกัน จึงได้ยกเลิกไป สุดท้ายก็เลยเปลี่ยนมาเป็นก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ซึ่งมีคุณสมบัติสลายตัวได้อย่างรวดเร็ว

แต่การฉีดคาร์บ๊อกซี่ก็อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงได้ เช่น ทำให้เกิดจ้ำเลือดเป็นรอยเขียวช้ำบริเวณที่ฉีด เนื่องจากเส้นเลือดฝอยแตก ที่น่ากลัวคือ หากฉีดในปริมาณมาก แล้วก๊าซถูกดูดซึมเข้าไปในหลอดเลือด อาจทำให้เกิดฟองก๊าซไปอุดตันหลอดเลือดหัวใจได้ แม้กรณีนี้จะพบได้ไม่มากก็ตาม

ถ้าถามว่าควรจะไปฉีดดีหรือไม่ ก็ต้องย้อนถามกลับว่า คุณจะไปฉีดทำไม เพราะเหตุผลอะไร ถ้าคุณบอกว่า ก็หนูอ้วน มีไขมัน และเซลลูไลท์ อยากสวย ก็ต้องบอกว่า การรักษามีหลายวิธีนะ หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า ก็เหมือนกับการเดินทางกลับบ้านคุณอาจกลับได้หลายทาง แล้วแต่ว่าจะเลือกทางไหน วิธีนี้อาจเสียค่าใช้จ่ายสูง และเป็นวิธีการชั่วคราว ถ้าคุณมีเงินแล้ว อยากจะทำก็ไม่เป็นไร เพราะคงไม่มีใครไปห้ามได้ แต่ถ้าไม่มีเงินแล้วไปทำ ถามว่าคุ้มหรือไม่คุ้มก็ควรชั่งน้ำหนักและตัดสินใจดู แต่อย่าลืมว่ามันเป็นเทคนิคใหม่ เดี๋ยวนี้คนไหนมือไวก็ให้บริการก่อน ทั้ง ๆ ที่บางครั้งสังคมยังไม่มีความรู้ด้วยซ้ำ อะไรก็ตามที่เป็นกระแสคงอยู่ไม่นาน

ด้าน นพ.จิโรจ สินธวานนท์ ผอ.สถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กระ ทรวงสาธารณสุข อธิบายข้อมูลว่า การฉีดคาร์บ๊อกซี่ เป็นการลดไขมันเฉพาะจุด ด้วยการฉีดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เข้าไปบริเวณส่วนเกิน เช่น บริเวณรอบเอว ตะโพก ต้นขา ใต้ท้องแขน

วิธีการคือ ผู้ให้การรักษาจะใช้เข็มที่มีขนาดเล็กมากฉีดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในปริมาณที่เหมาะสมเข้าไปในชั้นไขมันใต้ผิวหนังบริเวณที่ต้องการจะลด ซึ่งก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จะไปช่วยย่อยสลายเซลล์ไขมันบริเวณดังกล่าว ทำให้เซลล์ไขมันยุบตัวลง ทั้งนี้มิได้หมายความว่า ฉีดครั้งเดียวแล้วจะเห็นผลทันที อาจจะต้องทำติดต่อกันหลายครั้ง สถานบริการบางแห่งอาจฉีดสัปดาห์ละ 1-2 ครั้งแล้วแต่ปริมาณก๊าซที่ใช้ บริเวณที่ฉีด และร่างกายของแต่ละคน

สรุป เสี่ยงค่ะ หมอไม่ใช่ทุกคนที่จะรับผิดชอบคนไข้ เหมือนดังกรณีที่เป็นข่าวครึกโครมอยู่ทุกวันนี้ค่ะ เข็มหนึ่งราคาเป็นพัน แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเราไม่มีผลข้างเคียง ขนาดคุณหมอยังแยกเป็น 2 ฝ่ายเลยค่ะ จะเชื่อใครดี ก็คงต้องคิดหนักนะคะ แต่ห้ามไปฉีดกับคนที่ไม่ใช่แพทย์เฉพาะทางเด็ดขาดนะคะ อันตรายมากๆค่ะ

2007-09-26 15:46:54 · answer #1 · answered by กระจกใส 7 · 0 0

เราเคยซื้อ โปรแกรมฉีด คาบล็อคซี่มาค่ะ แรกๆว่าดีมากชอบ หลังจากนั้นไม่ได้ฉีดทิ้งเวลามา 5 ปี เจอผลเสียค่ะผิวหนังชั้นในจะดูย้วยมากไม่ธรรมชาติ น่าเกลียดอะค่ะท่านใดจะไปทำคิดดีๆถึงผลที่จะตามมานะค่ะ

2016-04-07 21:51:25 · answer #2 · answered by Vijitra Buabut 1 · 0 0

คิดให้ดีนะ ธรรมชาติดีกว่า เป็นห่วง ออกกำลังกายดีกว่า วันละ 30 นาที ทานน้อยลง คุณ nat ให้ความรู้ดีมากค่ะขอ ขอบคุณแทนทุกๆ ท่านที่อ่านด้วย

2007-09-26 18:11:16 · answer #3 · answered by jam 1 · 0 0

สวัสดีจ๊ะ
เคยมีประชาสัมพันธ์สำนักงานเทศบาลแห่งนึงเค้าเคยฉียด แต่พอระยะเวลา ประมาณ 1 ปี ก็มีผื่นขึ้น
และผิวหนังเริ่มแดงและช้ำน่ะค่ะ แต่ทางที่ดีอย่าไปฉีดเลย ธรรมชาติก็ดูดีอยู่แล้วจ๊ะ

2007-09-26 15:53:53 · answer #4 · answered by smilebizdollars 3 · 0 0

fedest.com, questions and answers