สวัสดีค่ะ ชื่อน่ารักจังเนอะ...
ก็ถ้าเป็นความเข้าใจของตัวเอง ก็คิดว่าเรามีแค่ไหน อยู่แบบไหนก็ทำตรงนี้ให้มีความสุขที่สุด และสิ่งสำคัญที่สุดเราต้องไม่ไปแข่งขันกับคนอื่น จะทำให้เราไม่เป็นสุขค่ะ เราติดดินไว้ผืนแผ่นดินก็มั่นคงด้วยจริงมั้ยล่ะ
2007-09-01 01:31:59
·
answer #1
·
answered by smilebizdollars 3
·
0⤊
0⤋
ด้วยความเคารพ การตอบปัญหานี้ มิได้ต้องการให้เกิดกรณีพิพาทใดๆ เนื่องจากผมเองเป็นคนที่มีวิสัยทัศน์ไม่กว้างเหมือนชาวบ้าน ไม่ค่อยเผื่อเหลือเผื่อขาดที่เขาเรียกขวานผ่าซาก เพราะคนเรามีพื้นฐานที่แตกต่างที่คุณอาจไม่ได้พบบ่อยนัก
ผมคงมีความเข้าใจพื้นๆ คือ ให้คนเรารู้จักประมาณตนกินใช้พอประมาณและรู้จักแบ่งปัน คงเป้นการดีถ้าอยู่ในฐานะที่ทำได้ แต่โดยส่วนตัวไม่ได้ศรัทธามากนักเพราะไม่อยู่ในฐานะที่จะพอเพียงได้ รู้แต่ตอนนี้ไม่ค่อยจะพอ ความอดอยากพร้อมจะเป็นเพื่อนตายผมตลอดเวลา คงไม่ว่ากัน
2007-09-02 00:24:58
·
answer #2
·
answered by Kanes 6
·
2⤊
0⤋
ขออนุญาติเจ้าของคำถามตอบคุณ Jakrapong ในความเข้าใจของตัวเองนิดนึงนะครับ
เศรษฐกิจพอเพียง ที่ในหลวงท่านหมายถึง พอเพียงในสิ่งที่ตนสามารถหาได้ ใช้จ่ายตามกำลังที่ตัวเองจ่ายได้ ยกตัวอย่างเช่น คนมีเงินเก็บเป็นพันล้าน จะเอาไปซื้อเฟอรารี่ก็ได้ ซื้อบ้านหลักละ 50 ล้านก็ได้ ไม่ได้ผิดหลักเศรษฐกิจพอเพียงแต่อย่างใด
สำหรับการนำมาประยุกต์ใช้กับภาคธุรกิจ ผมว่าน่าจะใช้ได้ครับ ในสิ่งที่คุณ Jakrapong ยกตัวอย่างมา ผมมองอย่างนี้ครับ ...
ถ้าบริษัทของคุณมีความสามารถที่จะหารายได้ (รวมถึงกำไร) ได้มาก ก็ไม่ผิดครับ ควรจะทำให้ได้มากที่สุด เต็มที่ที่สุดด้วยซ้ำ แต่จะต้องอยู่บนความพอดี อะไรคือความพอดี ผมมองง่ายๆ อย่างนี้นะครับ ถ้าปกติทั้งองค์กรของคุณ พนักงานทำงานวันละ 8 ชม. ปีนึงได้กำไร 400 ล้าน แต่ถ้าทุกคนจะร่วมแรงร่วมใจทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดค่าใช้จ่าย เพื่อเพิ่มผลกำไรให้เป็น 600 ล้าน แบบนี้ผมว่าก็น่าเข้าตามหลักการของความพอเพียง แต่ถ้าต้องให้พนักงานทำเป้าให้ได้ 600 ล้าน โดยทำงานเพิ่มอีกวันละ 2 ชม. ผมว่าอันนี้ไม่ใช่เศรษฐกิจพอเพียงแล้ว หรือทำธุรกิจแบบคดโกง ไม่ซื่อตรง แม้ว่าจะได้ผลประโยชน์เพียงเล็กน้อย อันนี้ผมก็ถือว่าไม่พอเพียงเช่นกัน
หลักการพอเพียงรวมถึงการไปกู้เงินเพื่อมาลงทุนอย่างสมเหตุสมผลด้วยนำครับ สามารถทำได้ ขยายกิจการได้
----------------------------------------------------------------------------------
เพิ่มเติมนะครับ พอดีไปเจอเว็บที่มีข้อมูลที่ดีมากๆ เกี่ยวกับเศรษฐกิจพอเพียงมา
คำถาม: ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ขัดต่อหลักการทางธุรกิจที่เน้นการหากำไรหรือไม่
คำตอบ: คำนิยามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ได้กล่าวถึง "...ทั้งในการพัฒนาและบริหารประเทศให้ดำเนินไปในทางสายกลาง โดยเฉพาะการพัฒนาเศรษฐกิจเพื่อให้ก้าวทันต่อโลกยุคโลกาภิวัตน์..." และ "...โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ของรัฐ นักทฤษฎี และนักธุรกิจในทุกระดับ ให้มีสำนึกในคุณธรรมความซื่อสัตย์สุจริตและให้มีความรอบรู้ที่เหมาะสม ดำเนินชีวิตด้วยความอดทน ความเพียร มีสติปัญญา และความรอบคอบ..."
จากคำนิยามทั้งสองส่วนจะเห็นได้ว่าปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเห็นความสำคัญของภาคธุรกิจ และ ไม่ขัด ต่อหลักการธุรกิจที่เน้นการหากำไร กล่าวคือ การยอมรับการมีกำไรในระดับพอประมาณ และมีเหตุมีผล เพราะหากไม่มีกำไร ก็ไม่สามารถดำเนินธุรกิจไปได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว ไม่อยู่บนพื้นฐานของการเอารัดเอาเปรียบที่มุ่งผลกำไรสูงสุดเป็นสำคัญโดยไม่คำนึงถึงผลกระทบที่อาจจะก่อให้เกิดวิกฤตติตตามมา ซึ่งกำไรในระดับพอประมาณนี้เป็นกำไรระดับปกติ ทางภาษาเศรษฐกิจ (Normal Profit) ที่พอเพียงต่อนักลงทุน หรือผู้ถือหุ้น และต้องไม่เป็นการแสวงหากำไรโดยการเอาเปรียบผู้บริโภคหรือผิดกฎหมาย
เว็บที่มีรายละเอียดของเศรษฐกิจพอเพียงที่ดีมากๆ เข้าไปดูได้ที่ http://www.sufficiencyeconomy.org นะครับ
2007-09-02 20:30:43
·
answer #3
·
answered by Tum B. 4
·
1⤊
0⤋
กินอยู่ตามอัตภาพของเราค่ะ มีน้อยใช้น้อย มีมากใช้ตามความพอดี ไม่ฟุ้งเฟ้อเกินจำเป็น ไม่สร้างหนี้สิน ขยันทำมาหากินตามกำลังของเรา พอใจในตัวเองค่ะ บางท่านอาจคิดว่าไม่ให้ทำอะไรแบบก้าวหน้า ไม่ใช่นะคะ ในหลวงท่านหมายถึงไม่ว่าระดับไหนก็ใช้ปรัชญานี่นำไปประยุกต์ได้ค่ะ ไม่ได้หมายความว่าไม่ให้เราขี้เกียจ แต่ให้เราเดินสายกลาง คิดถึงส่วนรวม ไม่ใช่คิดแต่จะทำกำไรโดยไม่คำนึงถึงความถูกต้องหรือประโยชน์ต่อส่วนรวม แต่ทำธุกิจแบบเป็นธรรมค่ะ ถึงจะรวยแต่ถ้าเหยียบอยู่บนความทุกข์ของคนอื่นก็ไม่ดีนะคะ เช่นลดต้นทุน มุ่งทำกำไรมากเกินไป ก็ถือว่าไม่ใช้หลักพอเพียงค่ะคือโลภมากนั่นเอง คนรวยไม่ใช่รวยคนเดียว ต้องมีคุณธรรมและสามารถทำให้องค์กรนั้นมีความสุขและเศรษฐกิจพัฒนาเรียกว่ากระจายรายได้ไปให้คนแวดล้อมด้วยค่ะ
2007-08-31 15:40:13
·
answer #4
·
answered by กระจกใส 7
·
1⤊
0⤋
ปรัญชาเศรษฐกิจพอเพียง เป็นแนวพระราชดำริที่พระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทานให้แก่พสกนิกร ชาวไทย เพื่อเป็นแนวทางการดำเนินชีวิต ซึ่งสามารถนำไปใช้ได้กับทุกสายอาชีพไม่เพียงด้านการเกษตรเท่านั้น โดยในเนื้อใจความนี้นั้นมีหลักการปฏิบัติอยู่สามข้อได้แก่
- ประมาณตน
- มีเหตุผล
- สร้างภูมิคุ้มกัน ทั้งภายในและภายนอกกตัวเองครับ
ถ้าทุกคนมีสามข้อนี้แล้วก็จะช่วยให้มีอยู่อย่างพอเพียงได้ครับ
2007-09-02 16:30:23
·
answer #5
·
answered by Anonymous
·
0⤊
0⤋
ตามความเข้าใจคำว่าเศรษฐกิจพอเพียงหมายถึง เศรษฐกิจทางสายกลาง พออยู่พอกินสามารถช่วยเหลือตัวเองได้เช่นการทำเกษตรแบบผสมผสานซึ่งได้ทั้งอาหารสิ่งแวดล้อมและเงิน แต่คำว่าพอเพียงนี้รวมทั้งทางด้านจิตใจ สังคม วัฒนธรรม สิ่งแวดล้อมให้มีความสมดุยล์ในทุกๆ ด้าน
2007-09-01 18:59:30
·
answer #6
·
answered by ♥ MiM ♥ 5
·
0⤊
0⤋
คิดว่าเข้าใจแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงบ้าง พูดและเผยแพร่ได้ แต่ผมคงไม่ไปพูดที่ไหน เพราะพูดไปทั้งที่ไม่เห็นด้วย จะกลายเป็นเรื่องไม่ดีกับตัวเอง
เหตุผลนั้นก็คือ
ผมไม่กล้าจะบอกว่าเข้าใจอย่างเต็มที่ ผมรักพ่อหลวงของพวกเรานะครับ ท่านคิดขึ้นมาเพื่อพวกเราจริงๆ แต่ในใจลึกๆ ก็ไม่ค่อยเห็นด้วยกับพระองค์เท่าไหร่ เพราะไม่คิดว่าจะนำมาปรับใช้ได้จริง โดยเฉพาะในแง่ของการวัดผล
เพราะผมมองในแง่ของผลประกอบการของบริษัทเอกชน เป้าหมายคือการสร้างผลกำไรสูงสุดต่อผู้ถือหุ้น ผมไม่เข้าใจว่าถ้าเราเดินทางสายกลาง การสร้างความเติบโตในธุรกิจ โดยที่เราต้องพะวงอยู่กับแนวทางการเดินทางแบบสายกลางในธุรกิจ มันจะเป็นไปได้อย่างไร
ยกตัวอย่างเช่น ขณะนี้เรามี Key Performance Indicator (KPI) ว่าเราจะต้องทำรายได้ 100 ล้านบาทในปีนี้ แต่พอเราสำรวจจากแผนธุรกิจแล้วว่าถ้าเราบริหารจัดการ และลงทุนเพิ่มเติมเราอาจเพิ่มรายได้ให้บริษัทเป็น 400 ล้านบาทในเวลาเท่ากัน นั่นหมายความว่า ธุรกิจ ที่ ณ ทุกวันนี้เราอยู่ในกระแสทุนนิยมเต็มสูบ ก็จะเดินหน้าแบบคนละด้านกับแนวคิดโลกาภิวัฒน์ ที่มองว่า GDP เป็นมาตรวัดความก้าวหน้าของความอยู่ดีกินดีของประชาชน
ถ้าเป็นอย่างนั้นแล้ว การใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียงจะวัดผลอย่างไร จะทำให้ผู้ประกอบการไม่หวังผลกำไรสูงสุดนั้นจะเป็นไปได้อย่างไร หรือว่าเราจำเป็นต้องเดินตามหลักนี้ เพราะเราคิดว่าเราอยู่แค่นี้เราก็พอแล้ว
GDP:
Gross domestic product หรือผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ เป็นวิธีการคำนวณรายได้จากผลผลิตและบริการรวมของประเทศในแต่ละปี ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศสามารถใช้เป็นตัวบ่งชี้ถึงมาตรฐานคุณภาพชีวิตของ บุคคลในประเทศนั้น
2007-09-01 17:53:02
·
answer #7
·
answered by Jakrapong 5
·
1⤊
1⤋
พยายามอย่ามองคนที่เค้ามีมากกว่า พยายามอย่าอิจฉาผู้อื่น พยายามอย่าโลภ ตั้งมั่นอยู่ในศิลธรรมให้มาก ๆ สมถะเข้าไว้ ดิฉันคิดว่า (Simple is the best ) ชีวิตที่เรียบง่ายจะอยู่ได้ทนและได้นาน
2007-08-31 23:52:03
·
answer #8
·
answered by annie 6
·
0⤊
0⤋
No, I am not quite clear about it.
I think it is a sufficient economics.
This is more of philosophy than economics itself.
It might not have a concept of economic of scale (or even against it, I don't know.)
It may be based on cooperation rather than competition, isn't it?
I guess it won't back the outsourcing.
It may back a kind of sustainable development and has a social factor, rather than just profit.
About economic dependency, it might be toward either independence or interdependence. Quite frustrating!
2007-08-31 06:51:11
·
answer #9
·
answered by Anonymous
·
0⤊
0⤋